สะตอฟอร์ยู ::: สนับสนุนให้คนใต้ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น!!!

รักษาสิวแบบไหนดี? รวมข้อควรรู้เกี่ยวกับสิวและวิธีรักษาที่ถูกต้อง

by localspeaker @14 ต.ค. 68 15:30 ( IP : 27...13 )

รักษาสิวอย่างไรให้สิวหาย เผยผิวหน้าเนียนใสไร้รอยสิว?

รักษาสิว

วิธีรักษาสิวที่ถูกต้อง ได้แก่ การดูแลผิวและปรับพฤติกรรมให้เหมาะสม การใช้ยาทาและรับประทาน รวมถึงทำหัตถการทางการแพทย์เพื่อลดการอักเสบและป้องกันการเกิดสิวซ้ำ

ทำไมการรักษาสิวอย่างถูกวิธีถึงเป็นสิ่งสำคัญ? สิวอาจดูเหมือนปัญหาเล็ก ๆ แต่สำหรับใครหลายคนแล้วกลับสร้างทั้งความกังวลและความไม่มั่นใจในชีวิตประจำวัน สาเหตุของการเกิดสิวไม่ได้มีสาเหตุเดียว แต่เกี่ยวข้องกับหลายปัจจัย ทั้งฮอร์โมน พฤติกรรมการใช้ชีวิต ไปจนถึงการดูแลผิวพรรณที่ไม่เหมาะสม ที่สำคัญสิวไม่ได้มีแค่ชนิดเดียว สิวแต่ละประเภทก็มีลักษณะและวิธีการดูแลแตกต่างกันออกไป บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจตั้งแต่ต้นตอของการเกิดสิว ไปจนถึงวิธีรักษาสิวและการป้องกันอย่างถูกวิธี เพื่อให้หน้าที่เป็นสิวมีผิวกลับมาดูใสและสุขภาพดีได้อีกครั้ง

 


 

สิว คืออะไร?

 

ก่อนไปรู้จักกับวิธีรักษาสิว ลองมาทำความเข้าใจก่อนว่าสิวคืออะไร? สิวคือปัญหาผิวที่เกิดขึ้นจากการอุดตันของรูขุมขน โดยมักเริ่มจากน้ำมันส่วนเกิน (Sebum) และเซลล์ผิวที่ตายแล้วสะสมอยู่ภายในต่อมไขมัน เมื่ออุดตันมากขึ้นอาจกลายเป็นสิวหัวขาว สิวหัวดำ หรือสิวอักเสบได้ตามแต่ละสภาพผิว 

 


 

สิวมีกี่ประเภท แต่ละแบบต่างกันอย่างไร?

 

สิวสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ตามลักษณะอาการและระดับการอักเสบ โดยแต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะตัว ซึ่งทำให้การดูแลรักษาสิวอาจแตกต่างกันออกไป โดยประเภทของสิวมีดังนี้

สิวกลุ่มไม่อักเสบ (Non-inflammatory acne)

  • สิวหัวขาว (Whiteheads) : มีตุ่มเล็กสีขาวใต้ผิว เกิดจากการอุดตันของน้ำมันและเซลล์ผิวตายใต้รูขุมขน 
  • สิวหัวดำ (Blackheads) : มีหัวสิวเปิดที่ออกสู่ผิว เมื่อไขมันรวมเมลานินโดนออกซิเจนจะกลายเป็นสีดำ 

สิวกลุ่มอักเสบ (Inflammatory acne)

  • สิวตุ่มแดง (Papules) : มีตุ่มแดง เนื้อแข็ง ปวดเล็กน้อย เกิดจากการอุดตันที่เข้าไปติดเชื้อแบคทีเรีย 
  • สิวหัวหนอง (Pustules) : มีหนองตรงกลาง ตุ่มบวมแดง มีอาการอักเสบชัดเจน กดหรือจับแล้วรู้สึกเจ็บ
  • สิวหัวช้าง (Nodules) : มีตุ่มแข็งขนาดใหญ่ลึกใต้ผิว แห้งช้า รักษายาก และมีโอกาสทิ้งรอยแผลหรือหลุมสิวมาก 
  • สิวซีสต์ (Cysts) : เป็นสิวชนิดรุนแรงที่สุด เป็นถุงหนองลึกใต้ผิว บวม เจ็บ และอาจเกิดหลุมสิวตามมา

 


 

ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวมีอะไรบ้าง?

 

แน่นอนว่าสิวไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่มีปัจจัยหลายด้านที่ทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตันหรืออักเสบ หากเข้าใจสาเหตุที่แท้จริงก็จะช่วยให้เลือกวิธีรักษาสิวและป้องกันได้ตรงจุดมากขึ้น โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ คือปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ดังนี้

ปัจจัยภายใน 

  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ช่วงวัยรุ่น รอบเดือน หรือความเครียด
  • พันธุกรรม คนในครอบครัวมีประวัติเป็นสิวง่าย
  • การทำงานของต่อมไขมันที่ผลิตน้ำมันมากกว่าปกติ
  • ความผิดปกติในระบบภูมิคุ้มกันที่ตอบสนองต่อแบคทีเรียมากเกินไป

ปัจจัยภายนอก 

  • การใช้เครื่องสำอางหรือสกินแคร์ที่มีส่วนผสมอุดตันรูขุมขน
  • สภาพอากาศร้อนชื้น หรือเหงื่อสะสมทำให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโต
  • พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น นอนดึก เครียด รับประทานอาหารมันหรือหวานจัด
  • การสัมผัสผิวหน้าบ่อย ๆ เช่น จับหน้า กดสิว ที่ทำให้เชื้อโรคแพร่กระจาย

 


 

วิธีรักษาสิว ทำยังไงให้สิวหายจริง?

 

วิธีรักษาสิว

 

รักษาสิวไม่ใช่เรื่องยากเกินไป แต่คนเป็นสิวต้องเข้าใจว่าสิวแต่ละประเภทมีสาเหตุและความรุนแรงต่างกันออกไป วิธีรักษาจึงมีทั้งที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน และการเข้าพบแพทย์เพื่อรับการดูแลอย่างเหมาะสม หากเลือกวิธีรักษาถูกต้องและต่อเนื่อง ก็จะช่วยลดสิวให้ดีขึ้นได้ 

 

การรักษาสิวด้วยตัวเอง

 

ใครกำลังมองหาวิธีรักษาสิวแบบธรรมชาติแบบเร่งด่วน หรือรักษาสิวอักเสบด้วยตัวเองอยู่ แนะนำให้ทำตามวิธีต่อไปนี้

  • ล้างหน้าอย่างอ่อนโยน วันละ 2 ครั้ง ไม่ใช้สบู่หรือโฟมที่แรงเกินไป
  • หลีกเลี่ยงการบีบหรือกดสิวเอง เพราะเสี่ยงต่อการอักเสบและเกิดรอยแผล
  • ใช้สกินแคร์ที่ไม่อุดตันรูขุมขน (Non-comedogenic)
  • ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น นอนให้เพียงพอ ลดอาหารมันจัดและหวานจัด
  • ทายารักษาสิวที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป เช่น เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) หรือยากลุ่มกรดวิตามินเอเฉพาะที่ (Retinoids) ตามคำแนะนำ

 

การรักษาโดยแพทย์

 

  1. การปรับพฤติกรรม
    การปรับพฤติกรรมเป็นหนึ่งในวิธีลดสิวที่แพทย์แนะนำ โดยมักให้คำแนะนำเรื่องการดูแลสุขภาพผิวร่วมกับการรักษาสิวด้วย เช่น การปรับอาหาร พักผ่อนให้พอ และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิว เพื่อลดโอกาสการเกิดสิวซ้ำ
  2. การรักษาสิวด้วยยา
    • ยาทาสิวเฉพาะที่ เช่น เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ กรดวิตามินเอ (Tretinoin) และยาปฏิชีวนะทาบริเวณตุ่มสิว
    • ยารับประทาน เช่น ยาปฏิชีวนะกลุ่มเตตราไซคลีน ยาคุมกำเนิด สำหรับผู้หญิงที่สิวเกิดจากฮอร์โมน หรือยาลดการสร้างไขมันในผิว (Isotretinoin) ซึ่งต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
  3. การรักษาสิวด้วยหัตถการ
    • กดสิวโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเปิดหัวสิวออกอย่างปลอดภัย
    • เลเซอร์และแสงบำบัด เช่น เลเซอร์ลดการอักเสบ ลดรอยแดง หรือฆ่าเชื้อสิว
    • การทำทรีตเมนต์หรือ Peeling ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตัน
    • ลดสิวอักเสบด้วยการฉีดยาลดการอักเสบ (Steroid injection) สำหรับสิวอักเสบก้อนใหญ่

 


 

รอยสิว หลุมสิว รักษาอย่างไร?

 

หลาย ๆ คนพยายามรักษาสิวด้วยตัวเองมานาน อาจจะมีทั้งวิธีที่ถูกและผิดพลาดไปบ้าง ทำให้ผิวเกิดร่องรอยตามมา ที่พบบ่อยคือรอยสิวและหลุมสิว ซึ่งแม้จะเกิดจากสิวเหมือนกัน แต่ลักษณะและวิธีการรักษากลับต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยหลุมสิวจะเกิดจากการอักเสบรุนแรงของสิว จนทำลายเนื้อเยื่อใต้ผิว ส่งผลให้ผิวเป็นรอยบุ๋มลึก การรักษามักเน้นไปที่การกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนใหม่และปรับผิวให้เรียบเนียนขึ้น วิธีที่นิยม เช่น การเลเซอร์ (Fractional Laser) หรือการทำ Subcision หรือ Microneedling ซึ่งแพทย์จะเลือกวิธีที่เหมาะกับความลึกและลักษณะของหลุมสิวแต่ละแบบ

ส่วนรอยสิวนั้นมักเกิดขึ้นได้บ่อยกว่าหลุมสิวและมีหลายแบบ เช่น รอยแดง รอยดำ หรือผิวหมองคล้ำหลังการอักเสบ แม้จะไม่ได้เป็นหลุมลึกเหมือนหลุมสิว แต่ก็ทำให้ผิวดูไม่สม่ำเสมอและเสียความมั่นใจได้ การรักษารอยสิวจึงมุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟูเซลล์ผิวและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ โดยวิธีที่ช่วยลดรอยสิวได้ เช่น

  • เมโสหน้าใส (Meso Therapy) การฉีดตัวยาที่มีวิตามิน แร่ธาตุ และสารบำรุงผิวเข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ ฟื้นฟูให้ผิวกระจ่างใส และลดรอยดำรอยแดงได้เร็วขึ้น
  • การฉีดวิตามินหน้าใส เป็นการเติมสารอาหารที่ช่วยบำรุงผิวจากภายใน ช่วยให้รอยสิวจางลง ผิวแลดูสดใส และเสริมการทำงานของการรักษาอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยทั้งเมโสหน้าใสและการฉีดวิตามินหน้าใส ถือเป็นวิธีที่ช่วยลดรอยสิวได้ตรงจุดและเห็นผลเร็วขึ้น เหมาะสำหรับคนที่อยากฟื้นฟูผิวให้ใสขึ้นโดยไม่ต้องรอนาน นอกจากนี้ ยังมีการใช้เลเซอร์หรือแสงบำบัดที่ช่วยลดรอยแดง และปรับสีผิวให้เรียบเนียน รวมถึงการใช้สกินแคร์กลุ่มผลัดเซลล์ผิวที่ทำให้รอยสิวค่อย ๆ จางลงเมื่อใช้อย่างต่อเนื่องด้วย

 


 

พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง ถ้าไม่อยากเป็นสิว รอยสิว มีอะไรบ้าง?

 

นอกจากการรักษาสิวด้วยวิธีต่าง ๆ แล้ว การปรับพฤติกรรมก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะหลายครั้งสิวและรอยสิวเกิดจากสิ่งเล็ก ๆ ที่เรามองข้าม หากเลี่ยงได้ก็ช่วยลดโอกาสการเกิดสิวใหม่และป้องกันรอยสิวตามมา โดยพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยงมีดังนี้ 

  • บีบหรือกดสิวเอง เพราะจะทำให้เชื้อแบคทีเรียแพร่กระจาย เกิดการอักเสบรุนแรงและทิ้งรอยได้ง่าย
  • นอนดึกหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ ฮอร์โมนจะเสียสมดุล ทำให้สิวขึ้นง่ายและรอยหายช้า
  • จับหน้าหรือสัมผัสผิวบ่อย ๆ เพราะมือมีเชื้อโรคและสิ่งสกปรกที่อาจกระตุ้นสิวเพิ่ม
  • กินอาหารที่มีน้ำมัน ของมันของทอด หวานจัด หรือฟาสต์ฟู้ดบ่อย ๆ เพราะอาจกระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้นและเกิดสิวซ้ำ

 


 

รักษาสิวอย่างเหมาะสม ช่วยให้สิวหาย ผิวกลับมาเนียนใสได้ดังเดิม

 

การรักษาสิวอย่างถูกวิธีเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ผิวกลับมาเนียนใส ลดรอยและหลุมสิวได้จริง ไม่ว่าจะเป็นการดูแลตัวเองที่บ้าน หรือการเข้าพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม นอกจากนี้การปรับพฤติกรรมและหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นสิวซ้ำซ้อนก็มีส่วนช่วยให้ผลลัพธ์ดีขึ้น และหากมีการรักษาสิวอย่างต่อเนื่องด้วยวิธีที่ถูกต้อง ก็จะทำให้ผิวหน้ากลับมาเนียนใส ดูสุขภาพดี และลดโอกาสเกิดสิวใหม่ซ้ำในอนาคตได้ 

แสดงความคิดเห็น

« 8206
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง