สะตอฟอร์ยู ::: สนับสนุนให้คนใต้ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น!!!

การตั้งครรภ์ เป็นช่วงเวลาพิเศษที่เต็มไปด้วยความสุขและความตื่นเต้น แต่ก็แฝงไปด้วยความกังวล จนทำให้หลาย ๆ คนอาจสงสัยว่า เราควรดูแลตัวเองอย่างไรเพื่อให้ทั้งคุณแม่และลูกน้อยในท้องแข็งแรงสมบูรณ์ หรือแค่เพียงไปตรวจร่างกายกับคลินิกฝากครรภ์ก็เพียงพอแล้ว ใครที่วางแผนมีน้องไม่ควรพลาดกับบทความนี้

      ถึงแม้ว่าการไปใช้บริการกับคลินิกฝากครรภ์เพื่อตรวจร่างกายของคุณแม่ระหว่างการตั้งครรภ์อย่างสม่ำเสมอแล้ว การดูแลตนเองร่วมด้วยก็ถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก เพื่อให้ทั้งคุณแม่และลูกน้อยมีความแข็งแรงสมบูรณ์ที่สุด แต่จะมีวิธีไหนบ้าง ไปติดตามกันได้เลย

1. ฝากครรภ์

สิ่งแรกที่ควรทำเมื่อรู้ว่าตั้งครรภ์ คือ การไปฝากครรภ์กับคลินิกฝากครรภ์ เพื่อรับการตรวจสุขภาพ รวมถึงตรวจหาความเสี่ยง และรับคำแนะนำในการดูแลตัวเองอย่างถูกต้องจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

2. ทานอาหารที่มีประโยชน์
นอกจากการไปฝากครรภ์กับคลินิกฝากครรภ์แล้ว คุณแม่ควรเลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นอาหารที่มีประโยชน์ เลือกทานผักผลไม้ ธัญพืช โปรตีน และไขมันดี โดยควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารแปรรูป ของหวาน และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เพื่อให้ลูกน้อยได้รับสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตที่สุด

3. ทานวิตามินร่วมด้วย

อีกหนึ่งวิธีการดูแลตนเองขณะตั้งครรภ์ก็คือ ควรทานวิตามินเสริมตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อช่วยส่งเสริมด้านสุขภาพของทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์

4. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

ควรดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ อีกทั้งยังจะช่วยให้คุณแม่มีสุขภาพที่ดี เพราะน้ำถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายเกิดความสมดุล หากดื่มน้ำในแต่ละวันอย่างเพียงพอ

5. นอนหลับ

ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายมีเวลาซ่อมแซมตัวเอง อีกทั้งการอดนอนยังอาจส่งผลให้คุณแม่รู้สึกเหนื่อยล้า ไหนจะลูกน้อยในครรภ์ที่ต้องดูแล เพราะฉะนั้นอย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อผลดีทั้งตัวคุณแม่เองและลูกน้อยที่เกิดมา

6. ออกกำลังกาย

ใครว่าคนท้องออกกำลังกายไม่ได้ แต่รู้หรือไม่ว่าคุณแม่สามารถออกกำลังกายที่ไม่ต้องใช้แรงมาก อย่างการ เดิน ว่ายน้ำ โยคะ แต่ควรหลีกเลี่ยงกีฬาที่มีแรงกระแทก เพราะอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ได้

7. รักษาสุขอนามัย

ควรอาบน้ำให้สะอาด ล้างมือบ่อย ๆ และแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

8. หลีกเลี่ยงสารเสพติด

ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และเสพยาเสพติดทุกชนิด

9. ดูแลสุขภาพจิต

คุณแม่ควรผ่อนคลายความเครียด หากิจกรรมที่ชื่นชอบทำ พูดคุยกับคนสนิท หรือขอคำปรึกษาจากแพทย์เมื่อไปคลินิกฝากครรภ์หากรู้สึกเครียดหรือกังวล เพื่อหาแนวทางการรักษาต่อไป


อาการที่คุณแม่ควรระวัง หากสังเกตถึงความผิดปกติ:

• สังเกตอาการผิดปกติ เช่น เลือดออกช่องคลอด ปวดท้อง เจ็บครรภ์คลอด และรีบไปพบแพทย์ทันที

• เรียนรู้เกี่ยวกับการคลอดบุตร และเตรียมตัวสำหรับการเลี้ยงดูทารก

• หาข้อมูลเกี่ยวกับสถานพยาบาลที่เหมาะกับการคลอดบุตร

• เตรียมของใช้จำเป็นสำหรับคุณแม่และทารก
  
  
  

คำแนะนำเพิ่มเติม:

• คุณแม่ควรหาข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์เพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เช่น เว็บไซต์ของโรงพยาบาล หนังสือเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ หรือแอปพลิเคชันสำหรับคุณแม่

• คุณแม่สามารถเข้าร่วมกลุ่มคุณแม่ตั้งครรภ์เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และพูดคุยกับคุณแม่คนอื่น ๆ

• คุณพ่อควรมีส่วนร่วมในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย โดยช่วยแบ่งเบาภาระงานบ้าน ดูแลคุณแม่ และเตรียมตัวสำหรับการเลี้ยงดูทารก