สะตอฟอร์ยู ::: สนับสนุนให้คนใต้ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น!!!

"ภารกิจคืนความสงบกทม. หรือ Peace for Bangkok Mission" ของศูนย์รักษาความสงบ หรือ ศรส. เพื่อขอคืนพื้นที่ส่วนราชการและถนน ตามเป้าหมายต่างๆ  5  แห่ง คือ  1.บริเวณทำเนียบรัฐบาล 2.บริเวณศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ 3.บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 4.กระทรวงพลังงาน และ 5.กระทรวงมหาดไทย

กำลังตำรวจกว่า 25,000 นาย ถูกใช้ในแผนปฏิบัติการครั้งนี้ โดยมีการจัดแบ่งพื้นที่ในการดูแล มีหัวหน้าชุดเจรจา และผบ.เหตุการณ์แต่ละจุด คือ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ดูแลและเป็นหัวหน้าชุดเจรจาในการขอคืนพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล, พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภาค 1 รับผิดชอบดูแลศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ, พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภาค 2 รับผิดชอบดูแลพื้นที่ ถ.ราชดำเนิน สะพานผ่านฟ้า และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย, ผบช.ภาค 5 รับผิดชอบกระทรวงพลังงาน และ ผบช.ภาค 7 รับผิดชอบกระทรวงมหาดไทย

การปฏิบัติการเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ 06.00 น. จุดแรกคือ กระทรวงพลังงาน เจ้าหน้าที่ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง ก็สามารถขอคืนพื้นที่ได้สำเร็จ โดยไม่มีเหตุรุนแรง กลุ่มผู้ชุมนุมยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติการโดยไม่ได้ขัดขวาง และสามารถจับกุมแกนนำได้ 2 คน คือ นพ.ระวี มาศฉมาดล และ นายทศพล แก้วทิมา พร้อมการ์ดและผู้ร่วมกระทำผิด รวม 144 คน เป็นชาย 69 และหญิง 48 คน ตามความผิดซึ่งหน้า ด้วยการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งหมดถูกควบคุมตัว ไปไว้ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 ปทุมธานี

หลังการเข้าขอคืนพื้นที่ เจ้าหน้าที่ชุด EOD เข้าตรวจสอบพื้นที่ พบอาวุธสงครามเครื่องกระสุน ยุทธภัณฑ์ หลายชนิด อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน รวมถึงยาเสพติด และอุปกรณ์การเสพจำนวนหนึ่ง

จุดที่ 2 ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ เวลา 07.00 น. พระพุทธะอิสระ นำมวลชน กปปส. รื้อแนวบังเกอร์ยางรถยนต์ กระสอบทราย รวมถึงสิ่งกีดขวางต่างๆ ที่ผู้ชุมนุมนำไปตั้งกีดขวางการจราจรบนถนนแจ้งวัฒนะ บริเวณหน้าบริษัท กสท.โทรคมนาคม และกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อเปิดพื้นที่การจราจรเข้าออกศูนย์ราชการให้สะดวกมากขึ้น พร้อมสั่งยุบพื้นที่ชุมนุมบนถนนแจ้งวัฒนะ ให้เหลือเพียงด้านหน้าศาลปกครอง ไปจนถึงหน้าอาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อไม่ให้ขวางทางเข้าออกศูนย์ราชการทั้ง 4 ช่องการจราจร และให้รถยนต์สามารถผ่านเข้าออกศูนย์ราชการ โดยใช้เส้นทางเบี่ยงเข้าไปด้านข้าง และอ้อมด้านหลังศาลปกครองได้ แต่การยอมเปิดเส้นทางครั้งนี้ พระพุทธะอิสระได้มีการติดต่อไปยัง ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อยืนยันในข้อตกลงเดิมว่า ตำรวจจะต้องไม่นำกำลังเข้าสลายการชุมนุม

จุดที่ 3 กระทรวงมหาดไทย  กลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการยึดรถเมล์ เพื่อใช้กำบังและปิดกั้นเส้นทางไม่ให้ตำรวจเข้ามา ขณะที่ตำรวจได้เข้ามาตรึงกำลังที่หน้ากระทรวงกลาโหม และฝั่งถนนอัษฏางค์ เตรียมที่จะเข้ากระชับพื้นที่ มีการขอเจรจากับแกนนำ แต่ได้รับการปฏิเสธ โดยให้ผู้ชุมนุมออกมาประจัญหน้า รอตั้งรับกับตำรวจตลอดแนวทั้ง 2 ด้านที่ตำรวจอยู่ ทำให้ตำรวจไม่สามารถเข้าไปยังพื้นที่ด้านในได้ โดยทำได้เพียงตรึงกำลังอยู่รอบนอก ก่อนที่จะถอนกำลังออกไปเวลาประมาณ 13.30

จุดที่ 4 ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นตัวแทนในการเข้าเจรจา โดยนำกำลังตำรวจ 40 กองร้อย เข้าตรึงบริเวณแยกมิกสกวัน ถนนพิษณุโลก ซึ่งมีนายชุมพล จุลใส, นายพุฒิพงษ์ ปุณณกัณฑ์ และนายสกลธี ภัทธิยกุล แกนนำ กปปส. นำผู้ชุมนุมมาปักหลักรักษาพื้นที่ไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าตำรวจขอคืนพื้นที่บริเวณดังกล่าว แนวตำรวจและผู้ชุมนุมต่างประจันหน้ากันห่างเพียงแค่ 100 เมตร ก่อนที่จะเริ่มต้นการเจรจา โดยฝั่งผู้ชุมนุม ส่งนายสกลธี แกนนำที่ยังไม่เคยถูกออกหมายจับ มาเป็นตัวแทนการเจรจาที่ฝั่งแนวของตำรวจ กับ พล.ต.ต.อดุลย์  มีการเจรจาทั้งแบบการเผชิญหน้า และทางโทรศัพท์ ก่อนที่ผู้ชุมนุมจะยินยอมเปิดพื้นที่ ตั้งแต่แยกลานพระรูป ถึงแยกมัฆวานรังสรรค์ ให้เจ้าหน้าที่เพื่อเตรียมสถานที่จัดงานกาชาด ขณะที่ฝ่ายตำรวจได้สั่งถอนกำลังเจ้าหน้าที่กลับที่ตั้งภายใน บชน.

จุดที่ 5 สะพานผ่านฟ้าลีลาศ  ซึ่งถือเป็นจุดที่สถานการณ์ตึงเครียดมากที่สุดในการขอคืนพื้นที่ครั้งนี้  โดยการเจรจาเพื่อขอคืนพื้นที่เริ่มตั้งแต่เช้ามืด  พล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ รอง ผบช. ภาค 2 และ พล.ต.ต. ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดสระแก้ว เข้าเจรจากับตัวแทน กปท. ถึง 4 ครั้ง แต่ยังไม่สำเร็จ ทำให้ตำรวจตั้งแถวเข้าประชิดแนวป้องกันของผู้ชุมนุมที่นั่งสวดอิติปิโส ขอเจ้าหน้าที่อย่าใช้ความรุนแรง ก่อนที่ตำรวจจะตัดสินใจใช้รถแทกเตอร์ เข้าทำลายแนวป้องกัน กปท. และเริ่มเข้าเคลียร์พื้นที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำถูกจับกุม แต่ถูกชิงตัวกลับมาได้ในเวลาต่อมา ระหว่างการผลักดันแนวผู้ชุมนุม  เริ่มมีการปะทะกันขึ้น มีการยิงแก๊สน้ำตา ก่อนที่จะมีเสียงคล้ายปืน คล้ายระเบิดดังต่อเนื่อง ตำรวจได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายนาย เจ้าหน้าที่ต้องถอยร่นออก จนเวลาผ่านไปเพียง 1 ชั่วโมง ผู้ชุมนุม กปท. เข้ายึดคืนพื้นที่ได้ตั้งแต่ สะพานผ่านฟ้า จนถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ตำรวจถอยกลับที่ตั้ง ในเวลา 14.00 น.

Five people were killed and nearly 60 injured in Bangkok on Tuesday as riot police clash with protesters. In this footage multiple gunshots can be heard as Thai police start to remove protesters and dismantle makeshift protest camps around the city. Police are seen withdrawing from the scene as shots are fired.

หลังสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร หรือ ศูนย์เอราวัณ รายงานจำนวนผู้บาดเจ็บจากเหตุขอคืนพื้นที่ชุมนุมบริเวณแยกสะพานผ่านฟ้าลีลาศ รวม 64 ราย และเสียชีวิตทั้งหมด 5 ราย คือ

1. ด.ต.เพียรชัย ภารวัตร อายุ 45 ปี มีบาดแผลที่หน้าอก

2. นายสุพจน์ บุญรุ่ง อายุ 52 ปี  เป็นผู้ชุมนุม มีบาดแผลที่ศีรษะ

3. นายธนูศักดิ์ รัตนคช อายุ 29 ปี เสียชีวิต

4. นายศรัทธา แซ่ด่าน มีบาดแผลใต้ราวนม

และ5.นายจีรพงษ์ ฉุยฉาย อายุ 29 ปี ถูกยิงบริเวณคอ เสียชีวิตเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืน(19ก.พ.) ที่ผ่านมา