สะตอฟอร์ยู ::: สนับสนุนให้คนใต้ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น!!!

"สนธิญาณ" ชี้ "อภิสิทธิ์" ส่อเหนื่อย!! หากดึงดันส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง แนะคิดให้ดีก่อน ย้ำต้องปฏิรูปประเทศก่อนให้มีการเลือกตั้ง

วานนี้ (18 ธ.ค.) คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะข่าวร้อน ล้วงข่าวลึก ทางทีนิวส์ทีวี ประจำวันพุธที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา ถึงสถานการณ์การเมืองช่วงนี้ดูท่าแล้ว พรรคปชป.จะเหนื่อยกว่าพรรคเพื่อไทย หากว่าตัดสินใจไม่ถูกต้อง ตัดสินใจที่เรียกว่า ไม่ลงตัว โอกาสที่จะทำให้สูญเสียเกียรติภูมิของพรรคที่ตั้งมาอย่างยาวนาน มีโอกาสที่จะเกิดผลลบได้ ซึ่งพรรคปชป.อยู่ในภาวะที่อิหลักอิเหลื่อ ในขณะที่พรรคเพื่อไทย มีทางหนีทีไล่มากกว่า

บุญระดม  :  กับสถาการณ์ความเคลื่อนไหวช่วงนี้ โดยเฉพาะกับที่หลายฝ่ายต่างจับจ้องไปที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และในขณะเดียวกันก็จับจ้องไปที่การชุมนุมใหญ่ที่เกิดขึ้นในวันอาทิตย์นี้ด้วย เพราะฉะนั้นคุณสนธิญาณเองมองความเคลื่อนไหว ณ วันนี้ว่าอย่างไร


สนธิญาณ  :  ผมคิดว่า สถานการณ์การเมืองช่วงนี้ดูท่าแล้ว พรรคปชป.จะเหนื่อยกว่าพรรคเพื่อไทยอีกด้วยซ้ำ หากว่าตัดสินใจไม่ถูกต้อง ตัดสินใจที่เรียกว่า ไม่ลงตัว โอกาสที่จะทำให้สูญเสียเกียรติภูมิของพรรคที่ตั้งมาอย่างยาวนาน มีโอกาสที่จะเกิดผลลบได้ ในขณะที่พรรคเพื่อไทย เขาก็มีทางหนีทีไล่มากกว่า  ถือว่าเป็นคู่กรณีโดยตรงกับคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) อยู่แล้ว สภาวะจะเป็นยังไงเขาก็ตั้งใจที่จะสู้อยู่แล้ว ทำไมผมถึงเห็นว่าพรรคปชป.อยู่ในภาวะที่อิหลักอิเหลื่อ พรรคปชป.มีคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ภาระหน้าที่ตอนนี้มีเรื่องเดียวเลยว่า จะส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งหรือไม่       


คุณอภิสิทธิ์ เป็นหัวหน้าพรรคมาหลายสมัย ต้องใช้คำว่าแบบนั้น ในหลายสมัยเป็นหัวหน้าพรรคมาก็ 3 สมัยแล้ว นำพาสู่การเลือกตั้งมาก็ 2 ครั้ง ก็ไม่ประสบกับความสำเร็จ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ส่วนจะเป็นครั้งสุดท้ายหรือไม่ ก็สุดแท้แต่มวลสมาชิกปชป.ตัดสินใจ ครั้งนี้เป็นทิศทางอนาคตทางการเมืองที่สำคัญของคุณอภิสิทธิ์ หมายถึงว่า หากพรรคปชป.ลงสมัครรับเลือกตั้ง คุณอภิสิทธิ์ก็มีโอกาสในครั้งที่ 3 ในการที่จะนำพาพรรคปชป.เข้าสู่สนามเลือกตั้ง ซึ่งจะมีนโยบายหรือมีทิศทางอะไรมากมายขนาดไหนเราก็ยังไม่เห็นภาพตอนนี้ ถ้าสำเร็จก็จะมีโอกาสกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง แต่ถ้าไม่สำเร็จ นั่นก็หมายความว่า คุณอภิสิทธิ์หมดหนทางการเมือง


อนาคตทางการเมืองของคุณอภิสิทธิ์ อาจจะยืดยาวต่อไปได้ ยืดยาวยังไง ผมเรียนแบบนี้ การส่งสมัครรับเลือกตั้งนั้น คนจำนวนหนึ่งในพรรคปชป.คิดว่า จะสามารถชนะการเลือกตั้งได้ คล้ายๆ กับลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ ไม่เอาเราเอาเขามาแน่ อันนี้คือความหมายที่ผมเรียนว่า เป็นความเห็นของพรรคปชป.ไม่ใช่ความเห็นของผมนะ เพราะคิดว่าการไม่เอาเราเขามาแน่กระแสสูงกว่าสมัยเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. เพราะตอนการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ต้องเรียนเลยว่า คนกรุงเทพฯไม่ชอบใจในตัวม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร แต่ว่าจำใจไปเลือก 2-3 แสนคน แล้วก็สิ่งที่ต้องเห็นอีก พอเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ขนาดว่า พรรคเพื่อไทยเพลี่ยงพล้ำ คะแนนยังทะลุเป็นล้านกว่า พรรคปชป. เกิดกระแสเรื่องไม่เอาเราเขามาแน่ เกิดกระแส 2-3 ล้าน ก็แพ้พรรคเพื่อไทย ทีนี้มาถึงเวลานี้ ผมคิดว่ากระแสที่พรรคปชป.คาดหวังเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะการชุมนุมของกปปส.ในขณะนี้สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือว่า การให้การศึกษากับประชาชน การให้ลำดับความคิดอย่างเป็นขั้นตอน โดยเฉพาะการนำเสนอของคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ วันนี้คนที่มาสนับสนุนกปปส.ชัดเจนว่า ต้องปฏิรูปการเลือกตั้ง มันกลายเป็นกระแสหลักนะคุณบุญระดม คุณจิตดี


เมื่อมันกลายมาเป็นกระแสหลักการเลือกตั้ง และถ้ายังไม่ปฏิรูปแล้วไปเลือกตั้ง ก็แสดงว่า ข้อเรียกร้องกปปส.ไม่ได้เรียกร้องแต่เฉพาะพรรคเพื่อไทย เป็นการเรียกร้องต่อทุกพรรค ความหมายของการเรียกร้องทุกพรรคก็คือ คุณยิ่งลักษณ์อาจจะถูกเรียกร้องให้คุณลาออกจากพรรค ตั้งนายกฯคนกลาง ตั้งสภาประชาชน เป็นการปฏิรูปการเมือง แล้วมาเลือกตั้งกัน เพราะยิ่งลักษณ์อยู่ในตำแหน่งนายกฯ จึงถูกเรียกร้องโดยตรง คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคปชป.มาร่วมเคลื่อนไหวกับคุณสุเทพมาตั้งแต่ต้น แต่พอ กปปส.เคลื่อนไหวจนไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์แล้วถอยออกไป เนื้อหามันเปลี่ยนไปจากวันแรก ในแง่ของการเคลื่อนไหวมวลชน มาถึงตอนนี้พรรคปชป.ยังดึงดันส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ผมคิดว่าคนที่สนับสนุนกปปส. ที่ต้องการให้เกิดการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง เขาจะไม่เลือกพรรคปชป. และถ้าไม่เลือกตั้งแล้วเกิดแพ้พรรคเพื่อไทยหลุดลุ่ยหนักหน่วงกว่าเดิมยิ่งเสียหาย และมาถึงเวลานี้ วันนี้ชัดเจนว่าบรรดาส.ส.และประธานสาขาพรรคสุราษฎร์ฯ มีมติไม่ส่ง แสดงว่าพรรคปชป.ขาดจำนวนที่นั่งในจ.สุราษฎร์ฯไปแล้ว หากว่าดึงดันจะส่งไม่ฟังประธานสาขาพรรค ไม่ฟังส.ส. ซึ่งสุราษฎร์ฯอยู่ภายใต้อิทธิพลของคุณสุเทพ มันเป็นแบบนี้ ทำให้พรรคปชป.และคุณอภิสิทธิ์อิหลักอิเหลื่อ และผมคิดว่า ถ้ามีมาแล้วหนึ่งจังหวัด มันจะทยอยตามมาคอยดูสิ


เพราะฉะนั้นพรรคปชป.โดยคุณอภิสิทธิ์ ร่างเวลาวันที่ 21 ผมว่าเหนื่อย ความจริงการปฏิรูปหรือการตัดสินใจอะไร ช้าไป 1 วันหรือเร็วขึ้น 1 วัน บางทีกระแสมันก็ต่างกันเยอะ สมมุติผมจินตนาการในพรรคปชป.บอกว่า ประกาศเลยไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้จนกว่าจะปฏิรูปและจะทำ 2 อย่าง ประการที่ 1. จะปฏิรูปพรรคให้เข็มแข็ง และเดินไปตามแนวทางที่ประชาชนเป็นเจ้าของได้มากยิ่งขึ้น ทุกวันก็เป็นอยู่แล้ว แต่มากยิ่งขึ้น ประการที่ 2. รับนโยบาย 5 แนวทางของกปปส. มาทำรายละเอียด และก็นำแนวเสนอเพิ่มเติมอื่นๆ ไป กปปส.เสนอมา 5 ข้อปฏิรูป แล้วมาแตกรายละเอียดโดยนักวิชาการของพรรค เพิ่มไปอีก 5 ข้อ และบอกว่าเป็นนโยบายของพรรค ต้องรอไป 1 ปี คนที่อยู่ในกปปส.ต้องสนับสนุนพรรคปชป.แน่นอน แล้วจะไปทางไหนได้ อยู่ที่จะกล้าอดทนรอหรือเปล่า หรือว่าวิเคราะห์เอาช่วงนี้ก่อน นี่เป็นสิ่งที่พรรคปชป.ต้องคิด จะให้ดูพรรคเพื่อไทย ผมเรียนนนะพรรคเพื่อไทยเขาไม่ได้เหนื่อยด้วย เขาตีกรรเชียงหนีไปเรื่อยๆ ตอนนี้เขามีตัวเลือกเยอะ ดูเหมือนว่าจะเข้าทางเพื่อไทยในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ด้วยซ้ำไป ดังนั้นผมถึงเรียนว่า สถานการณ์ ณ เวลานี้หนักสำหรับพรรคปชป. และก็นัดแถลงวันที่ 21 ยังไม่ทันเห็นเลยว่าวันที่ 22 เป็นยังไง ต้องดูนะครับว่า วันที่ 22 ประชาชนคนไทยจะออกมาตามคำเชิญชวนของกปปส. โดยคุณสุเทพหรือไม่ น่าคิดนะครับ ถ้าวันที่ 22 คนออกมาอีก มาเที่ยวนี้คุณสุเทพได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจน ไม่เหมือนกับครั้งก่อนว่า ครั้งสุดท้ายนะ ตอนนี้บอกว่าไม่สุดท้าย พี่น้องออกมาไล่กันเรื่อยๆ จนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จะทนอยู่ได้อย่างไร ก็ต้องดูว่า วันที่ 22 จะเป็นอย่างไร


บุญระดม  :  ทีนี้ตัวเลขน้อยตัวเลขมาก มันจะมีผลไหมคะ กับการชุมนุมครั้งต่อไป


สนธิญาณ  : มันไม่มีผลหรอกครับ ตัวเลขมาก ตัวเลขน้อย ถ้าคนยังล้นหลามยังเต็มถนน มันมากกว่าม็อบไหนๆ ที่เป็นมาในประเทศไทย มันยิ่งน่าคิด คนเดิมเขาก็ยังยืนยันเพียงแต่จะจัดกันขนาดไหน ความหมายที่ผมเรียนว่า ถ้าพอบอกว่าไล่ คนออกมากันล้นหลามเหมือนเดิม มันก็เหนื่อย ไม่ใช่ว่ากปปส.เหนื่อยนะ ทั้งรัฐบาลและพรรคปชป.รวมถึงคนที่ตัดสินใจเข้าสู่สนามการเลือกตั้ง เหนื่อยครับ


Cr. // TNEWS