สะตอฟอร์ยู ::: สนับสนุนให้คนใต้ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น!!!

::: ยะลา ::: ใต้สุดสยาม เมืองงามชายแดน

การแข่งขันนกเขาชวาอาเซียน

by sator4u_team @25 เม.ย. 55 16:28 ( IP : 118...83 ) | Tags : ท่องเที่ยวและกิจกรรม
photo  , 765x326 pixel , 97,044 bytes.

การแข่งขันนกเขาชวาอาเซียน

ความเป็นมา

คนไทยนิยมเลี้ยงและนิยมเล่นนกเขาชวามาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ในอดีตจะนิยมเลี้ยงและเล่นกันในราชสำนัก ข้าราชบริพาร ขุนนาง คหบดี และประชาชนที่สูงอายุเท่านั้น มักจะจัดการแข่งขันในงานนักขัตฤกษ์ และงานชมรม สมาคมเกี่ยวกับนกเขาชวารวมทั้งหน่วยงานต่าง ๆ ก็มักจัดให้มีการแข่งขันเป็นครั้งคราว แต่ปัจจุบันการเลี้ยงและการจัดการแข่งขันนกเขาชวาเสียง แพร่กระจายมาสู่พ่อค้า ประชาชน และบุคคลในระดับต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล และสงขลาบางส่วน ประชาชนนิยมเลี้ยงและเล่นนกเขาชวามาช้านาน โดยกระจัดกระจายอยู่ตามหมู่บ้าน ตำบลต่าง ๆ และจัดให้มีการแข่งขันในกลุ่มเล็ก ๆ เฉพาะที่สนใจเท่านั้น ไม่มีหลักฐานปรากฏยืนยันได้ว่าการจัดการแข่งขันนกเขาชวาเสียงเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อใด แต่เป็นที่ทราบกันดีในหมู่นักเลงนกเขาว่า การแข่งขันนกเขาชวาเสียงที่ยิ่งใหญ่เป็นที่สนใจของผู้นิยมเลี้ยงนกมากที่สุด คือ การแข่งขันนกเขาชวาเสียงชิงถ้วยพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำในช่วงต้นเดือนธันวาคมของทุกปี ณ สนามโรงพิธีช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดยะลา

ในปี พ.ศ.๒๕๒๙ เทศบาลเมืองยะลา ร่วมกับจังหวัดยะลา ชมรมผู้เลี้ยงนกเขาชวาเสียงจังหวัดยะลา และชมรมผู้เลี้ยงนกเขาชวาเสียงภาคใต้ โดยการสนับสนุนของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมกันพัฒนาสนามแข่งขัน และกติกาการแข่งขันให้มีมาตรฐานเพิ่มขึ้น ตลอดจนความคิดที่จะพัฒนาเสริมสร้างประโยชน์ให้กับท้องถิ่นในด้านเศรษฐกิจจึง ได้กำหนดให้มีการแข่งขันนกเขาชวาเสียงชิงชนะเลิศในระดับอาเซียน ขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๒๙ ณ สนามโรงพิธีช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดยะลา โดยการใช้ชื่อในการจัดการแข่งขันว่า "การจัดงานแข่งขันนกเขาชวาเสียงชิงแชมป์กลุ่มประเทศอาเซียนครั้งที่ ๑" สาเหตุที่ใช้คำว่า "อาเซียน" เพราะมีประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงเข้าร่วมแข่งขันด้วย คือ มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และบรูไน ซึ่งประเทศดังกล่าวนี้มีวิถีชีวิต วัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกับประชาชนในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของไทย ได้มีการแลกเปลี่ยน สนับสนุนเกื้อกูลกันในเรื่องต่าง ๆ มาตลอด ที่สำคัญคือ มีความชื่นชอบและนิยมเลี้ยงนกเขาชวาเสียงเหมือนกัน จึงเกิดเป็นความสัมพันธ์ทางสังคม คือ สังคมนกเขาชวาเสียงตลอดมา

การจัดการแข่งขันนกเขาชวาเสียงครั้งแรกมีผู้ส่งนกเข้าแข่งขันมากถึง ๑,๒๐๖ นก ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในหมู่ผู้นิยมเสียงนกเขาชวาเสียง และสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดยะลา และประเทศไทยเป็นอย่างมาก วงการนกเขาชวาเสียงมีความตื่นตัว มีการซื้อหา และจำหน่ายกันอย่างแพร่หลาย ตลอดจนขยายกิจการฟาร์มเพาะเลี้ยงนกเขาชวาเสียงเพิ่มขึ้น เกิดธุรกิจนกเขาชวาเสียงและสินค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการเลี้ยงนกเขาชวาเสียงเกิดขึ้นตามมาเช่น ข้าวเปลือกนกเขา ดอกหญ้า กรงนกและอุปกรณ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับการเลี้ยงดูแลนก หลังจากนั้นการแข่งขันนกเขาชวาเสียงอาเซียน ของจังหวัดยะลาได้จัดให้มีการแข่งขันตลอดมาเป็นประจำทุกปี โดยได้พัฒนากิจกรรมต่าง ๆ ตลอดมา จนกระทั่งครั้งที่ ๖ ได้เปลี่ยนชื่อในการจัดการแข่งขันจาก "การจัดงานแข่งขันนกเขาชวาเสียงชิงแชมป์กลุ่มประเทศอาเซียน" เป็น "จัดงานแข่งขันนกเขาชวาเสียงอาเซียน ครั้งที่…….….." เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันปีพ.ศ.๒๕๔๓ ได้จัดการแข่งขันครั้งที่๑๔ รวมมีนกเข้าร่วมแข่งขันมาแล้วทั้งสิ้นประมาณ ๓๐,๐๐๐ นก

บรรยากาศความคึกคัก สนุกสนาน รอยยิ้มที่ทักทายกันด้วยความรัก ความเป็นมิตร ของผู้คนมากมายที่ไม่ได้คำนึงถึงเชื้อชาติ ศาสนาและฐานะ พร้อมกับความหวัง จะเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนมีนาคมของทุก ๆ ปี ในงานการจัดการแข่งขันนกเขาชวาเสียงอาเซียนของจังหวัดยะลา จนถือเป็นประเพณีของจังหวัดยะลาและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้บรรจุงาน แข่งขันนกเขาชวาเสียง อาเซียนลงในปฏิทินการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเผยแพร่ไปสู่สายตาชาวโลกอีก ด้วย

ความสำคัญ

งานแข่งขันนกเขาชวาเสียงอาเซียนของจังหวัดยะลานับเป็นกิจกรรมระดับชาติ กิจกรรมหนึ่งที่นอกจากจะเป็นสื่อมิตรภาพที่สามารถเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่าง คนต่างเชื้อชาติ ศาสนา ฐานะ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน ได้สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ ตลอดจนก่อให้เกิดความรัก ความเข้าใจและความร่วมมือซึ่งกันและกันแล้ว กิจกรรมดังกล่าวยังช่วยเสริมสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในท้องถิ่น ทำให้เศรษฐกิจของภาคใต้ดีขึ้น ชาวบ้านหลายครอบครัวมีรายได้จากการผสมนกเขาชวาขายจนสามารถสร้างบ้านใหม่ สามารถซื้อรถกระบะสำหรับบรรทุกนกเขาชวาไปขายต่างถิ่นได้ ส่วนผู้มีฝีมือก็ประดิษฐ์กรงนกเขาชวาออกขายได้ราคาดีตามความประณีตของฝีมือ หลายคนเปลี่ยนอาชีพจากการทำเฟอร์นิเจอร์มาทำกรงนกเขาชวาขาย บางคนเป็นข้าราชการแต่ทำเป็นอาชีพเสริม ช่างตัดเย็บเสื้อผ้าหลายคนเปลี่ยนมาเย็บผ้าคลุมกรงนกเขาชวาเสียง ซึ่งมีรายได้มากกว่าตัดเย็บเสื้อผ้าหลายเท่า นอกจากนี้ในช่วงฤดูกาลของการจัดการแข่งขัน ร้านอาหาร ภัตตาคาร โรงแรม จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากผู้คนทั่วทุกสารทิศทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ประชาชนในท้องถิ่นมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดยะลาและจังหวัดใกล้เคียง นับได้ว่านกเขาชวาเสียง และการจัดงานแข่งขันนกเขาชวาเสียงอาเซียนของจังหวัดยะลา มีบทบาทในการช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของชาวบ้านในท้องถิ่นและประเทศชาติได้เป็น อย่างดีตลอดจนได้เสริมสร้างความรักสามัคคีให้เกิดขึ้นระหว่างคนในชาติและ กลุ่มประเทศในอาเซียนอีกด้วย นอกจากนี้คณะกรรมการจัดการแข่งขันได้นำรายได้จากการจัดกิจกรรมดังกล่าวมอบ เป็นทุนการศึกษาให้กับนักเรียนใน โรงเรียนสังกัดเทศบาลที่ยากจน และทุนการศึกษาการสอบแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกชิงทุนนกเขาชวาอาเซียน ให้กับสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดยะลาเป็นประจำทุกปี

ลักษณะนกเขาชวาที่นิยมเลี้ยงเพื่อแข่งขัน

นักเลงนกเขาชวาจะไม่นิยมเรียกคำลักษณะนามของนกเขาชวาว่า "ตัว" แต่จะนิยมใช้คำลักษณะนามว่า "นก" แทน เป็นการยกย่องตามความเชื่อถือของคนโบราณ ที่ถือว่านกเขาชวาเป็นนกที่ให้โชคให้ลาภ และถ้านกเขาชวาลักษณะไม่ดีก็จะให้โทษด้วย ไม่เหมือนนกชนิดอื่นที่เลี้ยงไว้ดูเล่นเพียงอย่างเดียว ซึ่งนกชนิดอื่นเรียกคำลักษณะนามว่า "ตัว" ได้ แต่นกเขาชวามักต้องเรียก "นก" เสมอ เช่น "นกเขาชวา ๑๐ นก" เป็นต้น

ภาคใต้ถือว่าการเลี้ยงนกเขาชวาเป็นงานอดิเรก และบางคนยังสามารถเลี้ยงเป็นอาชีพได้ด้วย หลาย ๆ ครัวเรือนจะมีเสารอกนกจำนวนมากบ้าง น้อยบ้างตามฐานะ และมักจะมีกรงนกเขาชวาแขวนตามชายคาบ้าน นอกจากนี้ยังมีอีกหลายครัวเรือนที่มีกรงนกผสมพันธุ์ ขนาดใหญ่บ้างเล็กบ้างตามฐานะ ที่สำคัญคือมักจะมีถ้วยรางวัลจากนกเขาชวาที่ชนะการแข่งขันจากสถานที่ต่าง ๆ เป็นส่วนประดับอาคารชานเรือนของตนด้วย

นกเขาชวาที่นิยมเลี้ยงมี ๒ ประเภท คือ ประเภทนกดีตามตำราเรียกว่า "นกลักษณะ" กับประเภทที่เลี้ยงไว้ฟังเสียงเรียกว่า "นกเสียง" ภายหลังความนิยมนกเขาชวาดีตรงตามตำรา หรือนกลักษณะลดลง เพราะผู้ใดได้นกลักษณะดีตรงตามตำราก็ได้เป็นผู้ชนะตลอดทุกครั้งที่มีการแข่ง ขัน คนอื่นที่ไม่มีหรือหาได้ไม่ดีเท่าก็จะรู้สึกไม่สนุก เพราะมักแพ้ทุกครั้ง ความนิยมเลี้ยงนกเสียงจึงมีมากขึ้นในช่วงหลัง และนิยมมาจนถึงปัจจุบันนี้ การแข่งขันนกเสียงมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้นกเขาชวาผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ ผู้เป็นเจ้าของก็จะสนุกและไม่เบื่อ เพราะมีการลุ้นเพื่อให้นกของตนชนะทุกครั้งที่มีการแข่งขัน แต่นกเขาที่จะชนะได้จะต้องขันเสียงกังวานไพเราะ มีจังหวะการขับ และต้องขันทนด้วย ตามกติกาที่คณะกรรมการตัดสินกำหนด ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่งในวันที่เข้าแข่งขัน โอกาสจะชนะ ก็น้อย ปัจจุบันผู้เลี้ยงนกเขาชวาจึงไม่สนใจรูปร่าง ลักษณะของนกเขาชวาว่าจะเป็นนกให้คุณหรือ ให้โทษตามตำรา แต่จะมุ่งที่เสียงนกเขาชวาเป็นใหญ่ ถ้าขันเสียงดี ไพเราะมีกังวาน นักเลงนกเขารุ่นใหม่จะนิยมเล่นทั้งสิ้น

เสียงของนกเขาชวามี ๓ ขนาด คือ ใหญ่ กลาง และเล็ก นักเลงนกเขาชวาทางภาคใต้จัดอันดับราคาเสียง ให้นกเสียงใหญ่มีราคาแพงกว่านกเขาเสียงกลาง และนกเขาเสียงกลางมีราคาแพงกว่านกเขาเสียงเล็ก ในกรณีที่นกมีความดีเหมือนกัน นกที่ขันจังหวะช้ามีราคาดีกว่านกที่ขันจังหวะธรรมดาและจังหวะเร็ว นกที่ขันเสียงท้ายกังวานมากมีราคาดีกว่าท้ายกังวานน้อย และเสียงท้ายยาวที่มีความกังวานดีกว่าเสียงท้ายสั้นที่มีความกังวาน รวมทั้งเสียงหน้ายาวดีกว่าเสียงหน้าสั้นด้วย และนกที่มีความดีเหมือน ๆ กันขัน ๕ จังหวะ จะนิยมมากกว่า ๔ จังหวะ และ ๔ จังหวะจะนิยมมากกว่า ๓ จังหวะ สำหรับการแข่งขันนกเขาชวาเสียงอาเซียนจังหวัดยะลานั้นในการแข่งขันทุกครั้ง จัดให้มีการแข่งขัน ๔ ประเภท คือ ประเภทเสียงใหญ่ เสียงกลาง เสียงเล็ก และประเภทรวมเสียง

นักเลงนกเขาชวาเสียงจะตั้งชื่อนกของตนเองเป็นชื่อต่าง ๆ ประจำนกตามความคิด ความเชื่อ และความเป็นมาของนก เช่น ตั้งตามลักษณะรูปร่าง และสีของนก เช่น "นกแก้ว" "หัวจุก" "ช้างเผือก" "สายน้ำผึ้ง" ตั้งเพื่อเป็นสิริมงคล เช่น "วาสนา" "นำโชค" "ลูกกตัญญู" "เทพนรสิงห์" "เพชรพนม" ตั้งชื่อตามจังหวัดถิ่นที่อยู่ เช่น "ศรีเคดาห์" "ศรีมาเลาะ" "เพชรนครปฐม" "ชีลัตตานี" "สิงห์ ก.ท.ม." "ตาโละกาโปร์" "ศรีอลอสตาร์" "ศรีกระบี่" "หนุ่มชาวเขื่อน" การตั้งชื่อที่ให้ดูน่าเกรงขาม เช่น "ตะเคียนทอง" "ขุนศึก" "จันทร์เพชร" "นางพญา" "ก้องนภา" "สิงห์ทอง" "เพชรมงคล" "เพชรตะวัน" "เพชรทักษิณ" "เพชรสุริยา" การตั้งชื่อตามบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น "เป่เล่" "เป่เล่น้อย" "ปาปิญอง" "ฮิตเลอร์" "มาราโดน่า" "มารีโอ" "ซัมปีโก้" "นโปเลียน" "ไมเคิลแจ๊คสัน" เป็นต้น

ลักษณะของกิจกรรมในงานการแข่งขัน

ในระยะเริ่มต้นของการจัดการแข่งขันมีกิจกรรมหลักคือการแข่งขันนกเขาชวาเสียง ประเภทเสียงต่าง ๆ คือเสียงใหญ่ เสียงกลาง เสียงเล็ก และประเภทรวมเสียง กิจกรรมร่วมได้จัดให้มีการแจกรางวัลบัตรเสารอกแด่เจ้าของนก ผู้โชคดีจะได้รับรางวัลต่าง ๆ ที่คณะกรรมการได้กำหนดขึ้น ต่อมาในการแข่งขันครั้งที่ ๓ ได้จัดให้มีการแข่งขันแกะเพิ่มขึ้นอีกกิจกรรมหนึ่ง และเมื่อการจัดการแข่งขันครั้งที่ ๕ ได้จัดให้มีกิจกรรมการแข่งขันนกกรงหัวจุก การแข่งขันชนโค และมีการประกวดดนตรีในงานดังกล่าว ต่อมาการจัดงานนกเขาชวาเสียงอาเซียนจังหวัดยะลาได้รับความสนใจ จากประชาชน ทั่วไปแพร่หลายมากขึ้น การจัดกิจกรรมในงานมีความหลากหลายมากขึ้น เช่น การชนไก่ ตกปลา ประกวดพระเครื่อง ประกวดโป้ยเซียน ประกวดร้องเพลง ประกวดดนตรี การออกร้านแสดงสินค้าพื้นเมือง และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับนกเขาชวามากมาย คณะกรรมการจัดการแข่งขันได้กำหนดให้มีรางวัลต่าง ๆ แก่ผู้ชนะในการแข่งขันในแต่ละครั้ง เช่น รางวัลที่ ๑ เป็นรางวัลถ้วยทองคำจากท่านนายกรัฐมนตรีซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในปีที่จัดการ แข่งขัน ดังนี้

ครั้งที่ ๑ - ๓ ปี พ.ศ.๒๕๒๙ - ๒๕๓๑ ชิงถ้วยทองคำของ ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์

ครั้งที่ ๔ - ๗ ปี พ.ศ.๒๕๓๒ - ๒๕๓๕ ชิงถ้วยทองคำของ ฯพณฯ พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ

ครั้งที่ ๘ - ๑๐, ๑๓, ๑๔ ปี พ.ศ.๒๕๓๖ - ๒๕๓๘, ๒๕๔๑ , ๒๕๔๒ ชิงถ้วยรางวัลของพณฯนายชวน หลีกภัย

ครั้งที่ ๑๑ ปี พ.ศ.๒๕๓๙ ชิงถ้วยทองคำจากพณฯนายบรรหาร ศิลปอาชา

ครั้งที่ ๑๒ ปี พ.ศ.๒๕๔๐ ชิงถ้วยทองคำของ ฯพณฯ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ

นอกจากนี้ยังมีรางวัลอื่น ๆ รองลงมา เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ โทรทัศน์สี ตู้เย็น สร้อยคอทองคำ พัดลม และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งมีมูลค่าหนึ่งล้านบาท

ยะลาเป็นจังหวัดหนึ่งในภาคใต้ตอนล่างที่นิยมเสียงของนกเขาและยังเชื่อว่า นกเขาเป็นสัตว์มงคลที่จะนำโชคลาภมาให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ โดยเฉพาะหากเป็นนกเขาที่มีลักษณะถูกต้องตามตำรา ด้วยเหตุนี้ทางเทศบาลเมืองยะลาร่วมกับชมรมผู้เลี้ยงนกเขาชวาจังหวัดยะลา จึงจัดให้มีการแข่งขันนกเขาชวาเสียงชิงแชมป์อาเซี่ยน ครั้งที่ 1 ขึ้นในประเทศไทย เมื่อปี 2529 ต่อมาได้จัดเป็นงานเทศกาลประจำปีของจังหวัดยะลา ณ บริเวณสนามสวนขวัญเมือง กำหนดการจัดงานคือ วันเสาร์-อาทิตย์ แรกของเดือนมีนาคม ทุกปี ผลปรากฏเป็นที่นิยมของผู้ที่เลี้ยงนกเขาจากทั่วภูมิภาคของประเทศไทยและประเทศในกลุ่มอาเซียน เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ บรูไน อินโดนีเซีย

ในการแข่งขันได้แบ่งระดับเสียง 3 ระดับ ได้แก่ ระดับเสียงเล็ก ระดับเสียงกลาง และระดับเสียงใหญ่

ปัจจุบันเทศบาลนครยะลาร่วมกับชมรมนกเขาชวาเสียงจังหวัดยะลาและกลุ่มประเทศอาเซียนเป็นผู้จัดการแข่งขัน นอกจากมีการแข่งขันนกเขาชวาเสียงแล้วยังมีกิจกรรมอื่น ๆ เช่น การชนโค ชนแกะ ชนไก่ ตกปลา และจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์การเลี้ยงนกเขาชวาทุกชนิด


ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก :  http://www.openbase.in.th/node/7382 และ http://www.yala.go.th/webyala/SiteMap/wattanatam.html และ http://www.oknation.net/blog/nokkhao-toziro/2011/03/09/entry-3


สะตอฟอร์ยูสะตอฟอร์ยูดอทคอม (Sator4U.com FC) on Facebook

Relate topics

แสดงความคิดเห็น

« 7766
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง