ทดสอบพิษทุเรียนเทศ ใบแห้ง..มีลุ้นสู้มะเร็ง
จากกรณีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ออกมาเตือนถึงกระแสการนำใบทุเรียนเทศมาต้มนำน้ำมาดื่มด้วยเชื่อว่า จะแก้โรคมะเร็งได้ อาจมีผลเป็นพิษต่อเซลล์ปกติและทำให้ไตพังได้
เนื่องจากยังไม่มีรายงานผลทดสอบทางการแพทย์ที่แน่ชัดว่า ใบทุเรียนเทศมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระหรือเซลล์มะเร็งแค่ไหน จะรู้ได้จริงต้องรอผลศึกษาทางการแพทย์เสียก่อน...ล่าสุด ผลการวิจัยเบื้องต้นออกมาแล้ว โดย นายแพทย์อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยว่า สถาบันวิจัยสมุนไพร ได้ศึกษาวิจัยด้านพิษวิทยาสมุนไพรใบทุเรียนเทศมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว เพื่อศึกษาความเป็นพิษเบื้องต้นของใบทุเรียนเทศในหลอดทดลอง
โดยทดสอบใน 3 รูปแบบ...1.คั้นน้ำจากใบสด 2.สารสกัดด้วยน้ำของใบสด และ 3.สารสกัดด้วยน้ำของใบแห้ง
เพื่อเปรียบเทียบดูว่า น้ำคั้นและสารสกัดด้วยน้ำทั้ง 3 แบบ มีสรรพคุณแตกต่างกันแค่ไหน
จากนั้นนำสารทั้งสามมาหยดลงไปในหลอดทดลองเพื่อทดสอบความเป็นพิษต่อเซลล์มะเร็ง ที่เพาะเลี้ยงไว้ในหลอดทดลอง ผลการทดสอบพบว่า...สารสกัดด้วยน้ำของใบแห้งแสดงฤทธิ์ในการยับยั้งเซลล์มะเร็งตับได้ และไม่มีพิษต่อเซลล์ตับปกติ
ในขณะที่สารสกัดด้วยน้ำของใบทุเรียนเทศสดไม่แสดงฤทธิ์ยับยั้งเซลล์ตับ
ส่วนน้ำคั้นใบทุเรียนเทศสด แม้จะแสดงการออกฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็งตับได้ดีกว่าสารสกัดด้วยน้ำของใบแห้ง...แต่ความเป็นพิษต่อเซลล์ปกติมีสูง
ผลการทดลองครั้งนี้บ่งชี้ได้ว่า...สารสกัดด้วยน้ำของใบแห้งมีศักยภาพในการยับยั้งเซลล์มะเร็งตับและไม่แสดงพิษต่อเซลล์ปกติ ซึ่งอาจเป็นทางเลือกหนึ่งในการใช้รักษาโรคมะเร็ง เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่ายาที่ใช้ในการรักษามะเร็งในปัจจุบันมีผลข้างเคียงในการใช้ โดยเฉพาะการทำลายเซลล์ปกติร่วมด้วย
ส่วนการนำใบสดมาต้มกิน หรือจะสกัดด้วยวิธีไหนก็ตาม ล้วนไม่ควรกระทำทั้งสิ้น... นอกจากไม่ช่วยรักษามะเร็งแล้ว ยังเป็นการเพิ่มพิษให้กับร่างกายตัวเองอีกด้วย
กระนั้นก็ตาม ข้อมูลที่ได้จากการศึกษาวิจัยครั้งนี้ ยังไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนการนำสมุนไพรใบทุเรียนเทศมาใช้ประโยชน์อย่างจริงจัง
นายแพทย์อภิชัย ได้กล่าวอีกว่า หากจะนำสารสกัดใบแห้งของทุเรียนเทศมาพัฒนาเป็นยา หรือผลิตภัณฑ์สุขภาพ จำเป็นต้องศึกษาวิจัยเพิ่มเติมในด้านความเป็นพิษต่อเซลล์มะเร็งชนิดต่างๆ และต่อเซลล์อวัยวะอื่นๆ เช่น เซลล์ไต ปอด ลำไส้ หัวใจ และประสาท ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะได้พิจารณาวางแผนการศึกษาวิจัยตามความเหมาะสมต่อไป.
Cr. ไทยรัฐออนไลน์
Relate topics
- 10 อาหารที่ควรทานหลังออกกำลังกายหลายคนที่ลดน้ำหนักอาจเข้าใจผิดไปว่า หลังออกกำลังกายแล้วนั้นไม่ควรรับประทานอาหารใดๆ ทั้งสิ้นเพราะจะทำให้ยิ่งอ้วน แต่หารู้ไม่ว่าช่วงหลังออกกำลังกายนี่แหละเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายต้องการอาหารอย่างเช่น น
- " ฝึกสมองให้ลดน้ำหนัก "การลดน้ำหนักหรืออดอาหารไม่ใช่เรื่องที่ง่าย ยิ่งสำหรับบางคนมันเป็นความท้าทายที่หนักหนาสาหัสอย่างมากสำหรับร่างกายและ จิตใจของตัวเองในการที่จะลดอาหาร ลดไขมัน รวมไปถึงการควบคุมปริมาณแคลลอรี่ที่บริโภคเข
- ย่างเข้าเดือนหก ฝนก็ตกพร่ำๆ!!! เตือนภัย 15 โรคติดต่อที่มาพร้อมฤดูฝน!อีกไม่นานประเทศไทยก็จะเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเต็มตัว หลายคนเริ่มตระเตรียมอุปกรณ์กันฝน แต่แค่นั้นยังไม่เพียงพอ เพราะเมื่อฤดูฝนย่างกรายเข้ามา ก็จะมี 15 เชื้อโรคติดต่อรอโจมตีเราอยู่อย่างเงียบๆ ![
- 'รากบัว' เสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย สรรพคุณทางยามหาศาลในรากบัวยังพบ “ฟลาโวนอยด์” ซึ่งเป็นสารกลุ่มโฟลีฟีนอล ที่จัดเป็นพฤกษเคมีที่มีคุณสมบัติเด่น ในการต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง สรรพคุณทางยามากมาย เช่น ลดไข้ บรรเทาอาการไอ อีกด้วย
- ยาก่อนอาหาร ยาหลังอาหาร ลืมกินยาตามเวลา อันตรายหรือไม่ปัญหาที่มักพบเสมอเวลาจะรับประทานยา คือ ต้องรับประทานก่อนหรือหลังอาหาร และก่อนอาหารนานเท่าไหร่ หลังอาหารกี่นาที ก่อนนอนนานแค่ไหน ถ้าลืมแล้วจะทำอย่างไร ![ คำอธิบายภาพ : findingtherightpill ](http:
- ข้าวโพดต้มสุก มีดีกว่าที่คิด!!!สีเหลืองเข้มอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ชื่อ ลูทีน และ ซีเซนทีน ยิ่งนำไปต้มหรือย่าง สารตัวนี้จะยิ่งออกมาเยอะขึ้น!!! ![ คำอธิบายภาพ : IMG20150517112917 ](http://sator4u.com/upload/pics/IMG
- ช็อค! Ending the War on Fat ความเชื่อคนทั้งโลก เมื่อผลวิจัยเผย “คอเรสเตอรอล” มีแต่ประโยชน์ ไม่มีโทษนิตยสารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกาอย่าง TIME ได้เผยถึงบทความเกี่ยวกับ Ending the War on Fat “ความจริงของคอเรสเตอรอล” ที่ทุกๆ คนเข้าใจผิดมาตลอด 60 ปี ที่ว่าคอเรสเตอรอลเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดหลอดเลือดหัวใจ
- ผัก-ผลไม้ 7 อย่าง! บำรุงสายตา!!!การเลือกรับประทานพืชผักบางชนิดนอกจากทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังสามารถช่วยบำรุงดวงตาให้มองเห็นแจ่มแจ๋ว ไม่ร่วงโรยตามอายุได้อีกด้วย ![ คำอธิบายภาพ : foods-for-eye-health-934934 ](http://sator4u.com
- โรคไข้เลือดออกโรคไข้เลือดออกเป็นโรคที่เกิดจากยุงเป็นพาหนะของโรค นอกจากเป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศไทย ยังเป็นปัญหาสาธารณสุขทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศในเขตร้อนชื้น และก่อให้เกิดความกังวลต่อผู้ปกครองเวลาเด็กมีไข้ บทความนี
- โรคเก๊าท์ ...การรักษาด้วยวิธีการที่ไม่ใช้ยาถึงแม้ว่าโรคเก๊าท์เป็นโรคที่เกิดจากภาวะกรดยูริกในเลือดสูง และในปัจจุบันมียาหลายชนิดที่ใช้ในการรักษาภาวะกรดยูริกในเลือดสูงก็ตาม แต่การรักษาด้วยวิธีการที่ไม่ใช้ยาก็ยังเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการรักษาผู้