สะตอฟอร์ยู ::: สนับสนุนให้คนใต้ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น!!!

วันนี้เราขอเสนอความรู้เรื่องใบทุเรียนน้ำกับการรักษามะเร็ง มะเร็งเป็นอีกหนึ่งโรคร้ายที่มนุษย์หวาดกลัว เพราะหากเป็นแล้วมีโอกาสเสียชีวิตสูง และยังผลให้เจ็บปวด ทรมานในอวัยวะที่เป็นได้อย่างมาก ใคร ๆ ก็กลัวว่าตนจะเป็นมะเร็ง บางครั้งถึงแม้เราจะมีเงินเป็นร้อยล้าน หากถ้าเราเป็นมะเร็ง เงินนั้นก็ไม่อาจรักษาชีวิตเราเอาไว้ได้ แต่วันนี้ได้มีการวิจัยว่า ใบทุเรียนนั้น สามารถรักษามะเร็งได้ นับเป็นทางออกที่ดีสำหรับมนุษย์ หากเราสามารถยับยั้งและกำจัดมะเร็งได้จริง ๆ เราอาจลดทอนความตายของมวลมนุษย์ได้อีกมาก และเป็นการรักษาจากธรรมชาติด้วย เพราะเคมีบำบัดนั้นนอกจากเจ็บปวดทรมานแล้ว ยังมีผลข้างเคียงต่าง ๆ อีกมากมาย ที่เป็นต้นตอแห่งโรคฉวยโอกาสมาทำลายสุขภาพของเราได้อีกด้วย


ทุเรียนน้ำ ทุเรียนเทศ กับการรักษามะเร็ง

จากผลการศึกษามากมายที่แสดงให้เห็นว่าใบและกิ่งของต้นไม้เขตร้อนมี่ชื่อทุเรียนน้ำ(soursop)อาจพิสูจน์ได้ถึงผลในการรักษาโรคมะเร็ง ทุเรียนน้ำ หรือเป็นที่รู้จักว่า Graviolaในภาษาสเปน เป็นพืชพื้นเมืองของเม็กซิโก อเมริกากลาง หมู่เกาะคาริบเบียน และ ทางตอนเหนือของทวีปอเมริกาใต้ และยังพบได้ที่กลุ่มประเทศสหรัน อัฟริกัน ซึ่งเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในเขตร้อน ปัจจุบันต้นทุเรียนน้ำหรือทุเรียนเทศนี้ยังพบในบางเขตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เหตุผลที่ ต้นไม้ชนิดเป็นที่สนใจอย่างมาก เนื่องจากมีการกล่าวอ้างว่ามันมีความสามารถในการรักษามะเร็ง ซึ่งโลกเพิ่งจะมาค้นพบว่าทุเรียนน้ำมีประโยชน์กับสุขภาพ
การรักษามะเร็งเป็นหัวข้อใหญ่ของการวิจัยของโลกโดยเสมอมา และการค้นพบว่าทุเรียนน้ำสามารถรักษามะเร็งได้จริงนั้นถือว่าเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในการวิจัยด้านนี้


ทุเรียนน้ำรักษามะเร็งได้จริงหรือ

ถึงแม้การที่ทุเรียนน้ำรักษามะเร็งได้ยังเป็นที่กังขา แต่มีการศึกษาวิจัยมากมายที่มีผลพิสูจน์ข้อกล่าวอ้างนี้ มีการศึกษาวิจัยถึงผลของทุเรียนน้ำที่มีต่อเซลล์มะเร็ง เริ่มตั้งแต่ปี 1970สถาบันวิจัยมะเร็งแห่งชาติ(อเมริกา)ได้ทำการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในหัวข้อนี้มาตั้งแต่ปี1976 ผลลัพท์ที่ได้ออกมาแสดงว่าใบของทุเรียนน้ำ และกิ่งทุเรียนน้ำมีประสิทธิภาพในการจู่โจมและทำลายเซลล์มะเร็ง นอกจากนั้นยังมีการกล่าวอ้างในปีเดียวกันว่าทุเรียนน้ำสามารถฆ่าเซลล์ มะเร็งได้ มากกว่า20งานทดลองทางแล็ปและการศึกษาวิจัย ซึ่งเป็นที่ยอมรับ มีผลการศึกษาได้ตีพิมพ์ ในวารสารของผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ(Journal of Natural Products) จากการติดตามผลการศึกษาล่าสุดที่ดำเนินการโดย มหาวิทยาลัยคาทอลิกของเกาหลีใต้ รระบุว่าหนึ่งในสารเคมีของ Graviola
ที่ค้นพบคือ การเลือกฆ่าเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ที่มากกว่า10,000 เท่าของความแรงมากกว่ายาเคมีบำบัดที่ใช้กันทั่วไปที่ชื่อว่า Adriamycin ส่วนหนึ่งที่สำคัญที่สุดจากรายงานของมหาวิทยาลัยคาทอลิกของเกาหลีใต้ ได้รายงานว่า Graviola แสดงให้เห็นถึงการกำหนดเป้??าหมายกำจัดเฉพาะเซลล์มะเร็ง แยกออกจากเซลล์ทั่วไปของร่างกาย เซลล์ปกติจะไม่ถูกแตะต้องซึ่งแตกต่างจากยาเคมีบำบัดทั่วไปที่ไม่แยกแยะเป้าหมายเซลล์แต่อย่างใดแต่มีผลอย่างแรงต่อเซลล์อื่นๆ ด้วยเช่นกันทั้งหมด (เช่น กระเพาะอาหาร และเซลล์เส้นผลผม) ทำให้เกิดการทำลายล้างอย่างมาก มักจะมีผลข้างเคียงจาก อาการคลื่นไส้ ผมร่วงในผู้ป่วยโรคมะเร็ง น้ำหนักลด สภาพผิวหนังผิดรูป

มีผลการศึกษาบางอันได้ออกมากล่าวว่า ทุเรียนน้ำนั้น มีประสิทธิภาพฆ่าเซลล์โรคมะเร็งได้ถึง 12 ชนิด ได้แก่ ลำไส้ใหญ่ เต้านม ต่อมลูกหมาก มะเร็งปอดและมะเร็งตับอ่อน เป็นต้น สารที่ได้จากทุเรียนน้ำนั้นเป็นที่รู้ว่า ฆ่าเซลล์มะเร็งในตับชนิดที่ ไม่สามารถถูกทำลายได้จากการใช้คีโม นอกจากนั้นในระหว่างที่คนไข้รับการบำบัดทางคีโม ทุเรียนน้ำยังทำการปกป้องระบบภูมิคุ้มกันของเรา โดยการป้องกันจากการที่เซลล์ถูกทำร้ายโดยผลกระทบจากการบำบัดทางคีโม ยังคงมีผู้เชี่ยวชาญที่ตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพของการใช้ทุเรียนน้ำในการรักษามะเร็ง

การที่เป็นไม้ผลสุขภาพรสเปรี้ยว ทุเรียนน้ำยังมีประโยชน์อื่นๆอีก การรักษามะเร็งอาจเป็นเพียงประโยชน์ส่วนหนึ่งเท่านั้น ในความเป็นจริงการทำคีโมและการฉายรังสี แม้สามารถช่วยในการบำบัดมะเร็งได้อย่างมาก แต่ก็ไม่ได้รักษา ดังนั้น หากมีวิธีการทางธรรมชาติใดๆที่อย่างน้อยช่วยบรรเทาความรนแรงถีงแม้ไม่ถึงกับรักษา,หรือช่วยยับยั้งไม่ให้โรคร้ายนี้ลุกลาม ผู้คนก็ย่อมจะตอบรับสิ่งเหล่านี้ แน่นอนว่าคุณควรระวังในการใช้ทุเรียนน้ำ จากการที่มีผลวิจัยออกมาว่าการบริโภคผลทุเรียนน้ำ มากๆส่งผลให้เซลล์ประสาทถูกทำลายซึ่งจะเกิดอาการใกล้เคียงกับโรคพาร์คินสัน จึงมีคำแนะนำก่อนใช้ท่านควรปรึกษากับแพทย์ที่ดูแลท่านเสียก่อน ด้วยเหตุนี้การวิจัยลงลึกในหัวข้อนี้ จะช่วยให้เรามีความเข้าใจมากขึ้นถึงประโยชน์ของทุเรียนน้ำ

วันที่ 16 กรกฎาคมและ 23, 2007 เราได้เล่าเรื่องราวของ Raymond Kirlew แห่งเมืองเซนต์แอนน์ ที่ช่วยรักษาพยาบาลภรรยาของเขาYvonne ให้กลับไปมีสุขภาพดีอีกครั้ง เมื่อเธอมีมะเร็งที่ต่อมน้ำเหลือง มันเป็นเรื่องราวความรักที่อ่อนโยน จากใจของชายที่เข้มแข็ง มันเป็นเรื่องที่ขมขื่นเมื่อปีที่ผ่านมา เมื่อพวกเขาได้รับกการบอกล่าวว่า มะเร็งหวนกลับมาอีก

"เธอได้รับการทดสอบเป็นประจำทุก3-4 เดือน ให้แน่ใจว่ามะเร็ง (ลิมโฟมา) ยังคงอยู่ในความควบคุม จนถึง มีนาคม2009 ผลการทดสอบของYvonneโดยทั่วไปเหมือนเดิม ความเป็นจริง เราได้ไปคาริเบียน ครุยส์กับเพื่อนสองคนในเดือน เมษายน 2009, " Raymond Kirlew กล่าว

แต่ระหว่างปี 2008 เดือนธันวาคมและมีนาคมล่าสุด Yvonneรู้สึกปวด และมีกระตุกเส้นประสาทบ่อยๆในแขนขาของเธอ จาก 22 ถึง 26 มีนาคม เธอได้รับการทดสอบหลายต่อหลายครั้ง อย่างต่อเนื่อง และได้รับการแนะนำให้รักษาโดยการช็อคเส้นประสาทที่ถูกทำลายโดยเคมีบำบัด พวกเขาตัดสินใจที่จะไม่รับการรักษาโดยการช็อก

อย่างไรก็ตาม ความเจ็บปวดและเสียวในขายังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง พร้อม ด้วยการมีเหงื่อออกในเวลากลางคืน มีการทำการทดสอบและตรวจสอบ รวมทั้งเนื้อสมอง/ CT scan เพิ่มเติมหลายๆครั้งได้ทำระหว่าง 23 มิถุนายนและ 28 ในนิวยอร์ก ตรวจพบว่ามะเร็งมีการเคลื่อนย้าย และมีคำแนะนำให้สแกนรายละเอียดโพซิตรอน (PET) ให้เสร็จโดยเร็วที่สุด

ตอนนั้น Yvonneมีความรู้สึกปวดของแขนขา หน้าท้อง ขาหนีบ และต่อมน้ำเหลือง 28 กรกฎาคม ถึง2 สิงหาคม เธอต้องทำPET สแกนและตรวจเลือด อีกหลายต่อหลายครั้ง

การสแกน PETเป็นการทดสอบถ่ายภาพที่ช่วยให้แพทย์เห็นว่าอวัยวะและเนื้อเยื่อภายในร่างกายกำลังทำงานเป็นอย่างไรจริงๆในตอนนั้น

การทดสอบที่ทำเมื่อสิ้นสุดเดือนกรกฎาคม ข้อสรุปได้คือ โรคมะเร็งบุกรุกYvonneอีกครั้งที่ต่อมน้ำเหลือง และเพื่อหาว่ามันแพร่ลามได้เร็วแค่ไหน เพื่อตัดสินใจว่าจะทำเคมีบำบัดอีกเมื่อไหร่ หมอก็สั่งสแกนอีก

ตรวจพบการเคลื่อนไหวช้าๆของเซลล์มะเร็ง หนึ่งเดือนของการประเมินผล และ ได้รับคำแนะนำให้ว่าต้องได้รับเคมีบำบัด


มะเร็งกลับมา

"เราทั้งคู่ Yvonneและผมเริ่มคิดตระเตรียม เพื่อการรักษาเคมีบำบัด" เรย์กล่าว

"Yvonneเริ่มนอนกระสับกระส่ายในตอนกลางคืนและเหงื่อกาฬไหล ผมเองรู้สึกกลัวเป็นที่สุด ผมเฝ้าอธิษฐานไม่ให้โรคมะเร็งกลับมา แล้ว ความกลัวของผมเปลี่ยนเป็นฝันร้ายที่เลวร้ายที่สุดของผม มะเร็งที่น่ากลัวได้กลับมา ผมเหมือนถูกทำลายจนย่อยยับ เรารู้ว่าเมื่อโรคมะเร็งกลับมา มันยากที่จะรักษา

แล้วก็มีเรื่องแปลกๆ ที่ผกผันเข้ามา เมื่อน้องสาวของYvonne ส่งอีเมล์มาหา Ray มี ข้อความประกอบด้วยข้อมูลว่า ว่า ใบ ลำต้น และเปลือกของต้นทุเรียนเทศสามารถรักษาโรคมะเร็ง

"ผมเริ่มพบหลายบทความเกี่ยวกับ ผลไม้มหัศจรรย์นี้ และตั้งหน้าหาข้อมูล ในการอ่าน และค้นคว้าเรื่องราวเหล่านี้ มีการทดสอบและกล่าวอ้างว่า มันมีพลังในการรักษามากกว่า เคมีบำบัด ถึง10000 เท่า และไม่เป็นอันตรายต่อเซลล์ที่ดี" Ray กล่าว

"ผมเกิดความมั่นใจเป็นอย่างมาก ผมเลยแนะนำว่าYvonneควรจะลอง เพราะมันไม่มีอันตราย ผมคิดว่า นอกจากนี้ เนื่องจากเธอมีความดันโลหิตและเส้นประสาทกระตุก จากที่ผมอ่านมา มันก็น่าจะช่วยได้ แล้วมันยังช่วยลดความดันโลหิต และซ่อมแซมเส้นประสาทเสียหายได้ ผมคิดว่า 'มันดูเหมือนจะดีเกินจริง" เขาทบทวนความจำ

เรื่องจริงหรือนิยาย Ray ได้จัดแจง เพื่อที่จะรักษาภรรยาของเขาอีกครั้ง "เขาทำให้ฉํนเชื่อ ที่จะลอง ฉันยินยอม เขาต้มใบ และเปลือกจากต้นไม้ในบ้านของเรา รสชาติมันแย่ และฉันแทบนอนไม่หลับเนื่องจากอาการปวดทั้งหมดที่มี ฉันตัดสินใจไม่ดื่ม แต่หลังจากที่เรย์แนะนำว่า อาการปวดที่ได้รับอาจเป็นผลของทุเรียนเทศที่ต่อสู้มะเร็ง ฉันจึงยังคงดื่ม บางครั้ง ผสมกับน้ำผลไม้อื่น ๆ เพื่อให้ถูกปาก Yvonneกล่าว

"หลังจากนั้นไม่นาน ก็กลืนได้ง่ายโดยไม่เจือจาง หลังจากการดื่มชาทุเรียนเทศประมาณ 3 ครั้งต่อวัน อาการปวดเริ่มเบาบาง และเมื่อเวลาผ่านไปเธอก็มีกล้ามเนื้อกระตุกน้อยลงเรื่อยๆ หลังจากหนึ่งเดือน เอาการปวดบริเวณที่เคยฉายรังสีก็หายไป

อย่างไรก็ตาม ต้องรับการทดสอบเพิ่มเติม จากวันที่ 20 กันยายนเป็น 24 เพื่อตัดสินใจว่าจะเริ่มทำเคมีบำบัดเมื่อไหร่


ข่าวดี

ไม่มีโทรศัพท์จากหมอ เพื่อบอกผลของการทดสอบห้องปฏิบัติ หลังจากสามวัน ตามที่คาดไว้ว่าจะมี สองวันต่อมาก็ไม่มีอะไร เพราะกลัวที่ได้ยินข่าวร้ายYvonneจึงไม่โทรไปหาหมอ แต่Ray โทรไป และแพทย์บอกเขาว่ามะเร็งได้หยุดการเคลื่อนไหว ทั้งสองต่างมีความสุข อย่างสุุดจะบรรยาย

"Yvonneกลับตรวจอีกใน พฤศจิกายน2009 เพื่อเช็คอัพ Rayไปเยี่ยมแพทย์ที่รักษาเธอ (oncologist และแพทย์ทั่วไป)กับเธอ นำใบทุเรียนเทศ ไปด้วยเพื่อจะให้ดูว่าเธอดื่มอะไรอยู่ แพทย์( GP )แสดงความประหลาดใจว่า เธอไม่ต้องทำเคมีบำบัด Yvonne ได้รับการตรวจเลือดอีก หมอเรียกสามวันหลังนั้น เพื่อแจ้งว่า เลือดของYvonne สมบูรณ์แบบ... ปัจจุบัน (มกราคม), เธอยังคงไม่มีอาการเจ็บปวดอะไรอีก เธอจะตรวจร่างกายอีกครั้งในเดือนมีนาคม Ray บอก The Gleaner

สำหรับตอนนี้ Yvonne หมดข้อสงสัยแล้ว ร่างกายเธอไม่มีมะเร็งอีกต่อไป จาก 'ยา' สกัดจากเปลือกและใบของต้นทุเรียนเทศในบ้านของเธอ "เมื่อก่อนฉันสงสัยว่า ทุเรียนเทศที่มีคณสมบัติเป็นยา เพราะบางครั้งเมื่อฉันดื่มน้ำผลไม้ ฉันจะง่วงนอน และฉันวัดความดันโลหิตก็ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

"การที่ตัวเองมีประสบการณ์ที่เหลือเชื่อ กับของพืชที่พิเศษนี้ ฉันได้กลายเป็นผู้ที่เชื่อในคุณสมบัติโดยพืชธรรมชาติ ที่พระเจ้ามอบให้ ฉันมีความหวังว่า มะเร็งในที่สุดจะแพ้ และ ถ้าเมื่อมะเร็งมันกลับ มันสามารถที่จะถูกหยุดยั้ง แและขยายชีวิตเราให้ยืนยาวขึ้น Yvonne กล่าว

การค้นหาอย่างรวดเร็วบนอินเทอร์เน็ตเปิดเผยลิงค์มากมายที่เกี่ยวกับอำนาจรักษาของต้นทุเรียนเทศ แม้จะมีบทความตีพิมพ์ใน The Gleaner บนวันพฤหัสบดี 25 มิถุนายน ปีที่แล้ว เกี่ยวกับการดังกล่าว พาดหัวเป็น ' ทุเรียนเทศ: เป็นนักฆ่ามะเร็งธรรมชาติ ' ( 'Soursop: a natural cancer killer')

"เมื่อตอนผมได้รับข่าวสารเกี่ยวกับการรักษาด้วยทุเรียนเทศ มันเหมือนผมล่องลอยบนดวงจันทร์ด้วยความสุข ณ ตอนนี้ มะเร็งถูกกำจัดไปแล้ว เราทั้งสองมีความสุขมาก ทุกวันเราอธิษฐานว่า ขอให้โรคที่น่ากลัวนี้ไม่กลับมาอีก แต่ว่าเราก็ต้องเผชิญหน้าต่อไป ในฐานะของสามีและเพื่อน ผมมุ่งมั่นที่จะช่วยกำจัดโรคที่เหมือนอสูรร้ายนี้ ด้วยความช่วยเหลือของพระเจ้า Raymond


ประกาศใน retrospect

นี่เป็นวิธีการที่ใช้นาง Kirlewใช้รักษามะเร็ง

วิธีการเตรียมใบทุเรียนเทศ

ใช้ใบทุเรียนเทศ ประมาณ115 กรัม(1 / 4 ปอนด์ ) และกิ่งทุเรียนเทศ ล้างให้สะอาด ใส่กิ่งก้านทุเรียนเทศ (หรือเปลือกด้วย ถ้ามี)ลงในน้ำประมาณแกลลอนครึ่งหนึ่ง(5.5 ลิตร)ในหม้อที่ทนทาน (หม้อสแตนเลสจะดีกว่า)

ต้มน้ำเดือดในหม้อแล้วใส่ใบทุเรียนเทศ (และเปลือกไม้ ถ้ามี), เบาไฟเตาให้ความร้อนต่ำลง ให้ใบทุเรียนเทศ,กิ่ง,และเปลือก แช่ในความร้อนต่ำๆ ประมาณ 15-20 นาที ปิดไฟเตา แต่แช่ใบทุเรียนเทศ และกิ่งในความร้อนและปล่อยให้เย็น โดยแช่ประมาณ 8-12 ชั่วโมงหรือข้ามคืนถ้าเตรียมในตอนเย็น ในขวดแก้วหรือภาชนะพลาสติก และแช่เย็น

วิธีที่ใช้

เป็นเวลาสองสัปดาห์ ดื่ม350ซีซี (12ออนซ์) , สามครั้งต่อวันโดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนอาหารเช้าเที่ยงต้นและก่อนนอน สำหรับสองสัปดาห์ต่อมา ดื่มประมาณ240ซีซี (8 ออนซ์)สองครั้งตอนเช้าวันและเย็น ประมาณหนึ่งเดือนหลังจากนั้น ดื่ม 240ซีซี (8 ออนซ์)วันละหนึ่งครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนเช้าก่อนรับประทานอาหาร


**********************************


คุณสมบัติของทุเรียนเทศ

คุณสมบัติคือ การต้านเชื้อแบคทีเรีย,ต้านมะเร็ง, ต้านปรสิต, ต้านเนื้องอก, ต้านกล้ามเนื้อเรียบหดเกร็ง, ช่วยกระเพาะอาหารทำงานดีขึ้น ช่วยย่อยอาหาร เพิ่มความอยากอาหาร,เป็นยาฝาด สมานผิว, ยาแก้ไข้, แก้พิษ, ความดันโลหิต,ยากล่อมประสาท,ขยายหลอดเลือด และ กำจัดพยาธิ

ผลในการต้านเนื้องอก โดยไปต้านกับเซลล์ต้นกำเนิดของมะเร็ง (ไม่ได้ทำให้เซลล์เหล่านี้ตายและไปก่อตัวเป็นหินปูนหรือเนื้องอก) แต่ทำหน้าที่เพื่อลดค่อยๆลดจำนวนลงจนกว่าพวกเขาจะหายไปไม่ก่อตัวเป็นหินปูน ซึ่งใช้เวลาไปในแต่ละระบบร่างกายของเราให้มีการปรับปรุงและบริสุทธิ์ขึ้น. ในกรณีของมะเร็งไตหรือ การก่อตัวของหินปูนในตับ, ตับอ่อน, ปอด, สมองหรือไต ให้ใช้ปริมาณเพิ่มขึ้น จาก5กรัม เป็น7กรัมทุกๆวัน และการบริโภคของพวกเขาควรจะนานกว่าหกเดือน

การรักษารูมาติค รูมาติซึ่ม antirheumatic,การรักษาโรคปวดข้อ ข้อปวดบวม antiarthritic จะมีผลทันทีกับอาการปวดข้อและความเสื่อมของข้อกระดูกเหล่านี้ (Osteoarthritis) โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ได้รับการรักษา

รักษาเบาหวานโดยมีประสิทธิภาพช่วยในการกำจัดน้ำตาลส่วนเกินในเลือด ช่วยให้การทำงานเอนไซม์ตับอ่อนเป็นปกติ ถ้าคุณใช้อินซูลินควรบริโภค กับเมล็ด1 หรือ 2 เมล็ด ร่วมกับผลฝรั่งปอกเปลือกและบดเป็นเวลา เจ็ดวัน

สำหรับอาการจุกเสียดรังไข่ ดื่มชาทุเรียนเทศปล่อยหลังจากเย็นและเข้มข้น ก่อนดื่มซ้ำหลังจากสองชั่วโมง ต้านการอักเสบที่ต่อมไร้ท่อและตับ มันมีความสามารถทรงพลังในการต้านการอักเสบและ / หรือปล่อยออกมาจากกกระแสเลือด มันยังมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมสำหรับระบบต่อมไร้ท่อ, ทำให้การผลิตฮอร์โมน ทำให้ต่อมไร้ท่อต่างๆในของร่างกายของเราทำงานเป็นปกติ ไม่ว่าจะเป็นในระบบประสาทภูมิคุ้มกันและอวัยวะสืบพันธุ์(รังไข่และต่อมลูกหมาก) ในตับ ไต กระเพาะอาหาร โรคกระเพาะและรักษาแผล มีกรดโฟลิคซึ่งทำให้มันยอดเยี่ยมสำหรับผู้หญิงที่มีความประสงค์ที่จะตั้งครรภ์ (การผลิตของดีเอ็นเอให้เป็นปกติ) หลีกเลี่ยงการติดเชื้อที่ จะรบกวนการเจริญของทารกในครรภ์ เป็นยากล่อมประสาท,มันจะช่วยกู้คืนกล้ามเนื้อหัวใจหลังจากหัวใจวายและความดันโลหิตสูง ช่วยรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด มันช่วยให้ผ่อนคลายและสงบในเวลากลางคืน ทำให้เรานอนหลับสบายในตอนกลางคืน และง่วงนอนในระหว่างวัน

ต้านอาการท้องร่วงโดยมีศักยภาพในการกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดอาการท้องร่วงมีประสิทธิภาพกว่ายาปฏิชีวนะและทำงานโดยไม่ทำลายลำไส้ เป็นธรรมชาติ 100% เปลือกและใบร่วมกันมีคุณสมบัติเชื้อราเชื้อรา มีคณสมบัติในกำจัดเชื้อราบางชนิดที่ก่อให้เกิดผื่นแดง (เริม และโรคสะเก็ดเงิน)

รักษาผิวหนัง: สะเก็ดเงินโรคลูปัส (โดยใช้ร่วมกับปอและตำแยสีดำ), รักษาโรค กลากเกลื้อน seborrhea, ในการควบคุมระบบต่อมไร้ท่อต่อมยังควบคุมของเหลวของเราทำให้พวกเขาทำงานหากพวกเขาจะถูกบล็อกและการควบคุมพวกเขาหากพวกเขาเกิดขึ้นในส่วนที่เกินเช่นโรคสะเก็ดเงิน

ฆ่าพยาธิโดยมีประสิทธิภาพในการกำจัดปรสิตโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็ก โดยกินก่อนอาหารเป็นเวลา 7 วัน

โรคทางเดินอาหาร โดยช่วยในการย่อยอาหาร กำจัดไขมันส่วนเกินและไตรกลีเซอไรด์ในอาหารที่มันๆ เพื่อช่วยในการย่อยอาหาร ซึ่งมีประโยชน์มากเมื่อเรากำลังรักษาโดยการทำเคมีบำบัด

รักษาหวัด, ชาทุเรียนเทศใช้แก้หวัด, การอักเสบของเยื่อเมือกและ อาจใช้ร่วมกับชามิ้นท์

รักษาอาการแพ้ต่างๆ และ รักษากล้ามเนื้อเรียบหดเกร็ง ในโรคหอบหืด, กำจัดไรที่เกิดขึ้นในปอด

เป็นยากล่อมประสาทที่ทรงพลัง มันดีเยี่ยมสำหรับระบบประสาท โดยจะมีลิเธียมในปริมาณเล็กน้อยแต่เพียงพอที่จะเป็นยากล่อมประสาทในคนหงุดหงิด ประสาทและกังวล และยังรักษาโรคลมชัก

รักษาโรคอ้วนโดยการป้องกันการสะสมของไขมันในร่างกาย ทำให้คุณค่อยๆลดน้ำหนักลง

ช่วยขับปัสสาวะ จะช่วยให้มีการกำจัดของเหลว กรดเหลว (ซึ่งจะฟอร์มเป็นคลอเรสเตอรอล) และช่วยขจัดกรดยูริกส่วนเกินและ ขจัดการสร้างหินปูนในไต

---

Leaves and soursop pulp

It is a plant that grows in tropical areas in Central America and South America, especially in the Amazon. It is also known as soursop, Guanábano, Catuche, Catoche, Anona Mexico, Graviola, Anona India, Mole. The fruit is very delicate dark green covered with soft spines. Is relatively large and very thin shell. Should be harvested before they mature. The flesh is white, creamy, meaty, juicy and slightly acidic, measuring 2-3 cm long, can weigh 2.5 kg.

All plant parts are used in natural medicine, including bark, leaves, roots and fruits, but the part that contains the greatest concentration of active ingredient is the leaf, where the Annonaceae acetogenins, which have been widely studied from the 1940 that came into use as an insecticide, leading to surprise scientists for its broad power, without causing any harmful effects in animals and man, so they agreed to fund research where, each day discovering new properties, which, as a result of scientific zeal and vested interests, remained in custody for over 20 years. Globalization and parallel studies in Japan and China, they found the light, the wonders of this generous plant.

Soursop leaf and bark (Powder), cure diabetes by regulating blood sugar, which shows its high effectiveness in endocrine commitments: liver, kidney, thyroid, pancreas, ovary, prostate, intestines, muscle relaxant smooth (heart), gall bladder, appendix and fights lung cancer or Lewis, breast cancer and brain tumors, hypotensive, anti-spasmodic, vasodilator, eliminates dust mites that cause asthma and bronchial diseases. The leaf tea cure liver problems, improves the function of the pancreas. It is effective to deworm children, malaria cure, indicated to raise the defenses in patients with chemotherapy and also for people with HIV (AIDS).

The fruit has been used as an antiparasitic, antipyretic (reduces fever) and astringent in diarrhea. The stems, leaves and roots are considered sedative, hypotensive (blood pressure lowering), antispasmodic and anti-diabetic. The leaves are used as a tea against catarrh (inflammation of mucous membranes). The ground seeds are used by Andean tribes against intestinal parasites.

In recent years, the extract of guava has become widely acclaimed for having highly potent properties to fight cancer. Since March 2003, e-mails circulating on the Internet stating that the soursop tea cures cancer.

Acetogenins of Annonaceae are waxy substances resulting from the combination of long chain fatty acids (C32 or C34) with a unit of 2-propanol at carbon 2 to form a lactone terminal (such lactone is at the beginning of the chain) .

The acetogenins derived from long chain fatty acids have direct action on mitochondria, ATP, Reticular Apparatus of Goldi and plasma membranes and cell selectively destroying cancer cells without harming healthy cells and tissues also contain Bullatacin, Beta-sitosterol , sitosterol, campesterol, myristic acid, stearic acid, stigmasterol, Amino Acids, Vitamins and Minerals that act on Enzymatic and Molecular.

It is the best alternative when you can not resort to surgery or therapy or Radium Cobalt therapy or when you have to stop chemotherapy for their action and atrogenica (side effects) on the liver and kidneys. There is no conflict and contrary complements very well with any treatment that this subject the patient to improve the quality. They have absolutely no side effects or intolerance or allergic reactions.

The soursop is the most powerful anti-cancer plant on the planet, used for over 40 years in the U.S., Europe and Asia.

---

Studies and findings In 1976, Dr. Jerry McLaughlin at Purdue University discovered the ANONACEA GRAVIOLA acetogenins, powerful Anti-Cancer. Continued this research at the National Institute of Cancer proving its effectiveness in cancer colon and prostate. The National Health Center use to other cancers (gastric, kidney and breast). The Faculty of Medicine, Catholic University of Korea conducted comparative studies with adriamycin (chemotherapy) in the treatment of lung cancer.

Soursop

Studies from 1998 to 2000 by McLaughlin and Chih HW, Chui HF have shown that acetogenins are inhibores of complex I of oxidative phosphorylation chain thereby block the formation of ATP energy needed by the cancer cell to operate your pump P-glycoprotein mediated, allowing you to stay active. The acetogenins also inhibit the ubiquinone-ubiquinone oxidase, NADH-dependent enzyme that is peculiar to the plasma membrane of the cancer cell. McLaughlin did his research and Bullatacinone Bullatacin acetogenins.

A study from Purdue University in California, showed that acetogenins can selectively inhibit the growth of cancer cells and also inhibit the growth of tumor cells resistant to adriamycin (chemotherapeutic drug). In another study conducted by scientists at the University, it was shown that acetogenins soursop (graviola) are extremely powerful having an ED 50 (lethal dose 50) of up to 10 to 9 micrograms per milliliter, resulting have 10,000 times the potency of adriamycin .

There are several studies on anonacina, the compound of the soursop that have anticancer effects. However, those studies were only performed in vitro or in vivo in animals, there being still no clinical studies in humans. One reason cited for the lack of human clinical studies is the fact that you can not patent a plant, leading to the laboratories that sponsor research studies to focus on active ingredients, Annonaceae acetogenins, instead of the plant .

Studies were made of soursop compared to the effect with adriamycin (known chemoteherapeutic). It was found that is 10000 times more potent, and kills cancer cells without harming healthy cells as occurs with chemotherapy, which also causes nausea, weight loss and hair, protects and elevates the immune system.

Perhaps one of the most important discoveries related to cancer is that of the parasites. All cancer patients are infected with parasites. Parasites (the same that give our dogs and cats) create both toxic inside the body, with their droppings and urine, the body simply does not fit any defense against cancer and succumbed to the attack of proteases making cancer cells.

Scientific studies have shown that guava contains a class of compounds known as bioactive acetogenins of Annonaceae, which have only been found in this plant and some other of that family, being its main source leaf. Research shows that the main effects are those mentioned above and also have properties, anticonvulsant, antimicrobial and anticancer.

Recommended Uses Antitumor Anticarcinogenic Antispasmodic Sedative Fight Asthma and combating hypertension. Combat Diabetes Corrects liver disorders Chemical compositions of the Guanábana Chemical composition and nutritional value of fruit (100 grams of fresh fruit of the edible part)

Humidity 80.6% 1.63% fiber 0.73% ash 0.31% fat 1.22% protein 1.62% starch 0.021% Vitamin C Sugars (Gluc., FRUCT.) 15.63% 45.8 mg potassium 23mg Sodium 23.9 mg Magnesium Phosphorus 26.0 mg Iron 47mg Citrulline (protein) (10) Arginine (amino acid) (10) Caproic acid (lipid) (10) Anonaine (isoquinoline) (10) Anoniine (isoquinoline) (10) Asimilobine (isoquinoline) (10) Chemical components of the leaf

Soursop

Lactones

Annohexocina Annomuricina A, B, C and E Annomutacina Annopentocinas A, B and C Muricoreacina Gigantetronemina Murihexocina A and C Javoricina Isoquinolines

Anonaine Anoniine Atherospermine Coreximine Lipids

Gentisic acid Lignoceric acid CLA Stearic acid Chemical components of the seed

Lactones Annomonicina Annomontacina Annonacina Annomuricatina Annonacinona Javoricina It also contains:

Annomuricatina (protein) Linoleic acid (lipid) Bullatacin Bullatacinone Muricoreacin Murihexocin C Annomuricin A Annomuricin B Muricatocin A Muricatocin C Muricapentocin Medicinal properties of soursop according to their origin

Anticarcinogenic: Leaves and shoots Antibacterial: Bark Antiparasitic: Seeds and bark Ulcer: Bark Galactogogue: Fruit Antispasmodic: Leaves Sedative: Leaves Malaria: Leaves Antidiabetic: Leaves Vasodilator: Leaves Pectoral: Flowers Amebicide: Bark Disinfectant: Bark and leaves Insecticide: Leaves and root

Properties Guanábana Its properties of action is antibacterial, anticancer, antiparasitic, antitumor, antispasmodic, stomachic, astringent, cytotoxic, febrifuge, hypotensive, insecticide, pesticide, sedative, vasodilator, vermifuge.

Graviola

Antitumor effect by the active or inactive against cells of tumor origin (not having capacity of these cells die and go crowd forming stones or tumors) acts to decrease gradually until they disappear calcification, which takes time to go each of our systems, improving and purifying. In the case of kidney tumor or calcifications in the liver, pancreas, lungs, brain or kidneys the dose increases from 5 to 7 grams daily, and their intake should be longer than six months.

Antirheumatic, antiarthritic, has an immediate effect on joint pain and degeneration of these (Osteoarthritis). Especially for those who receive treatment.

Antidiabetic, by its powerful action in the blood helps to eliminate excess glucose. Works to normalize the juice and pancreatic enzymes. If you take insulin, should be consumed 1 or 2 seeds, peeled and crushed fruit (guava) fasting for seven days.

For ovarian colic, soursop tea (graviolas), let cool and strain before drinking, repeated after two hours.

Anti-inflammatory, endocrine and liver, because of his extensive power-inflammatory and / or released by the blood, is excellent for the endocrine system, normalizing hormone production in the different glands of our body, whether in the nervous system, immunological and player (ovaries and prostate) in the liver, kidneys, stomach, gastritis and ulcers fights.

Contains folic acid, which makes it excellent for women who wish to become pregnant (normal production of DNA), avoiding infections that complicate the development of the fetus.

Sedative, to recover the heart muscle after a heart attack and combat hypertension and cardiovascular problems. It has calming effect at night, getting a good nights sleep. No sleepy during the day.

Antidiarrheal, by its potent insecticide eliminates bacteria that cause diarrhea, is more effective than an antibiotic and works without damaging the intestinal flora, being 100% natural. Bark and leaf together have fungicidal properties, antifungal eliminates certain fungi that produce erythema (herpes, psoriasis).

Skin: Psoriasis, lupus (with Flax and Nettle Black), seborrhea, in regulating the endocrine system, also controls our glands fluids making them work if they are blocked and regulating them if they occur in excess, such as psoriasis.

Antiparasitic, insecticidal action by their powerful help to eliminate parasites, especially in children, dissolve one capsule before meals for 7 days.

Tract, for its soothing action facilitates good digestion, removing excess fat and triglycerides in opulent meal. To aid digestion, it is excellent when we are on chemotherapy.

Colds, soursop tea used for colds, inflammation of mucous membranes and is used to muna or mint tea.

Antihistaminic and antispasmodic in asthma, eliminates the mites that occur in lung cilia.

Sedative power is excellent for the nervous system to contain lithium in microscopic amounts sufficient to exert its sedative power in people irritable, nervous and anxious for its sedative power is anticonvulsant.

Obesity, by preventing the accumulation of body fat makes you lose weight gradually.

Diuretic, helps with the elimination of liquids, liquid acids (which form the colestero l) and helps remove excess uric acid and calcification of the nephrons (kidney cells)

Applications Against Cancer Soursop

The best way to consume the soursop or graviola is consuming it directly, forget once and for all the pills buy in health food stores, do not fall into those businesses, because the cure of disease and the real power is consumed directly in the healing element in this case is the fruit of the soursop, and preparing the leaves as you would any tea or water time.

If you want to eat the leaves of soursop, try to get the leaves in their natural state, avoid buying products such as tea's filter, etc.. And we repeat ... not acquire "natural products" in the commercial food stores, but not have noticed before, natural products are actually in the markets, there if you can find the elements that nature offers us in its natural state. But in health food stores often these products are altered, and the worst decline in its healing purpose to act in the patient slowly creating a cycle of consumerism and buying the product again, if you want to apply the true look natural medicine health food stores, rather look at the same result, then it is worth complaining about natural medicine when they fail their tasks. It's time to wake up and open their eyes to the real natural medicine.


Sorce @ annona-muricata-soursop , oknation