สะตอฟอร์ยู ::: สนับสนุนให้คนใต้ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น!!!

แมวเปอร์เซีย หรือ เปอร์เซียน (Persian Cats)

photo  , 640x480 pixel , 40,771 bytes.

แมวเปอร์เซีย ถือเป็นราชินีแมวจากแดนตะวันออกกลางที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก เพราะเป็นแมวขนยาว หน้าตาน่าเอ็นดู หัวกลมสวย ตากลมโต มีหลายสีขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ รวมถึงหน้าตาก็มีหลายแบบ มีอุปนิสัยอ่อนโยน เข้ากับคนง่าย ร่าเริงซุกซน ชอบประจบประแจง และมีไหวพริบ ซึ่งแมวพันธุ์นี้นับเป็นแมวต่างประเทศที่ถูกนำเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยเป็นพันธุ์แรกด้วย

แมวเปอร์เซียมีถิ่นกำเนิดอยู่แถบเปอร์เซีย หรือประเทศตุรกี และอิหร่านในปัจจุบัน โดยในปี ค.ศ. 1684 ได้มีการบันทึกลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับที่มาของ แมวเปอร์เซีย หรือแมวเปอร์เซียน (Persian Cats) ว่า พ่อค้าทะเลทราย (หรือที่เรียกว่ากองคาราวาน) ทางแถบๆ ตะวันตกของตุรกีและอิหร่าน มักบรรทุกสินค้ามากมาย อาทิเครื่องเทศน์ อัญมณี และสินค้ามีค่าอื่นๆ ซึ่งบางครั้งก็มีแมวขนยาวติดมาด้วย แมวขนยาวนั้นถูกซื้อโดยกะลาสีและได้นำแมวติดไปกับเรือสินค้าเดินทางเข้าทวีป ยุโรป ซึ่งหลายปีต่อมาแมวพันธุ์นั้นถูกรู้จักในชื่อ เตอร์กิส แองโกร่า (Turkish Angora)

ต่อมาในปลายศตวรรษที่ 19 ชาวอังกฤษเริ่มผสมพันธุ์แมวเตอร์กิส แองโกร่า กับแมวสายพันธุ์อื่น และพัฒนาจนได้แมวที่มีขนหนาและยาวกว่าเดิม กระทั่งในที่สุดแมวพันธุ์นี้ก็ได้รับการยอมรับและจดทะเบียนขึ้นที่ประเทศอังกฤษในชื่อว่า Longhair ซึ่งชื่อของมันก็ถูกตั้งขึ้นตามประเทศต้นกำเนิดนั่นเอง

นอกจากประเทศอังกฤษแล้ว แมวเปอร์เซียยังถูกนำไปเลี้ยงในประเทศต่างๆ ทั้งยุโรปและอเมริกามานานหลายร้อยปี ซึ่งอเมริกาจะเรียกแมวพันธุ์นี้ว่า Persian


ต้นกำเนิดของแมวเปอร์เซีย

ข้อสันนิษญานเกี่ยวกับต้นกำเนิดของแมวเปอร์เซียนั้น ได้มีการกล่าวกันไว้มากมาย ซึ่งรวบรวมเอาข้อสันนิษญานต่างๆไว้ดังนี้

ข้อสันนิญานแรก คือไม่ทราบต้นตระกูลของแมวเปอร์เซียแน่ชัด แต่เืชื่อกันว่าแมวเปอร์เว๊ยเป็นแมวเลี้ยงที่ถูกนำจากเมืองแองการ่า ประเทศตุรกี ต่อมาได้ขยายพันธุ์ไปในประเทศฝรั่งเศส และถูกนำเข้าสู่ประเทศอิตาลีจากทวีปเอเชีย

ข้อสันนิญานต่อมา เชื่อกันว่าต้นกำเนินของแมวเปอร์เซีย เกิดจากแมวในอ่าวเปอร์เซียที่ติดเรือไปกับพวกที่ค้าขายแถบยุโรป เพื่อประโยชน์ในการป้องกันสินค้าเสียหายจากหนู พอไปถึงแมวได้หนีไปเที่ยวแล้วเกิดพลัดหลงกลับขึ้้นเรือไม่ได้ ซึ่งต่อมาแมวพันธ์ดังกล่าวได้ไปผสมกับแมวพื้นเมืองทำให้เกิดแมวหน้าตาแปลกๆขึ้น โดยข้อสันนิษฐานนี้เชื่อกันว่าแมวเปอร์เซียมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประเทศอังกฤษ

อีกข้อสันนิฐานหนึ่ง เชื่อว่าแมวเปอร์เซียเป็นแมวขนยาวที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศอิหร่าน (เปอร์เซีย) ซึ่งได้ถูกนำเข้าไปเลี้ยงในแถบยุโรปและประเทศอเมริกาเป้นเวลานานตั้งแต่สมัยวิคตอเรีย รวมทั้งสิ้นประมาณ 200 – 300 ปี และได้มีการผสมให้มีสีต่างๆ เพิ่มขึ้น

ข้อสันนิฐานอีกข้อ คือเชื่อว่าแมวขนยาวน้นถือกำเนิดขึ้นเมื่อหลายศตวรรษและเป็นที่รู้จักกันในตอนนั้นว่า “แมวตุรกี” ซึ่งมีขนยาวเนื่องจากแมวต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพภูมิอากาศที่เลวร้ายและหนาวเย็น และยังเชื่อกันว่าได้มีการนำแมวขนยาวตัวแรกจากเมืองแองโกร่าประเทศตุรกี เข้าสู่ยุโรปในช่วงศตวรรษที่ 16 หลังจากนั้นไม่นานจึงได้มีการนำแมวขนยาวจากแถบเปอร์เซียเข้าสู่ยุโรป ซึ่งแมวที่นำมาจากเปอร์เซียนั้นมีความแตกต่างกับแมวตุรกีอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากแมวที่นำมาจากเปอร์เซีย จะมีใบหน้าที่สั้นกว่า หูเล็กกว่า รวมถึงมีลักษณะของเส้นขนแตกต่างกัน อย่างไรก็ตามในงานประกวดแมวที่จัดขึ้นครั้งแรกในประเทศอังกฤษนั้น จะเรียกแมวขนยาวทั้งหมดทุกสายพันธุ์ว่า แมวเปอร์เซีย

ในภายหลังได้มีการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างแมวขนยาวตุรกีและแมวขนยาวที่นำมาจากเปอร์เซีย ซึ่งลูกแมวทีี่ได้จากการผสมครั้งนั้นมักจะมีหนาสั้นออกไปทางแมวที่มาจากเปอร์เซีย เป็นเหตุให้แมวขนยาวตุรกีค่อยๆจางหายไปในที่สุด จนกระทั้งปี ค.ศ. 1950 มีการนำแมวมาจากตุรกีอีกครั้งเพื่อเป็นการแยกสายพันธุ์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น จึงมีการตั้งชื่อแมวที่มาจากตุรกีว่า แมวแองโกร่า และแมวที่มาจากเปอร์เซียว่าแมวเปอร์เซียน(Persian)  แต่สมาคม GCCF(The Governing Council Of The Cat Fancy) ซึ่งเป็นสมาคมแมวในประเทศอังกฤษ เรียกแมวเปอร์เซียว่า “Long Hair” ส่วนประเทศอเมริกาจะเรียกว่า Persian

ข้อสันนิฐานสุดท้าย คือ ถิ่่นกำเนิดเริ่มแรกคือประเทศอังกฤษเรียกว่า Longhair ส่วนอเมริกาเรียกว่า Persian แมวเปอร์เซียจะเป็นแมวขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ที่มีโครงร่างหนา กระดูกจะดูใหญ่แข็งแรง หัวกลม ถ้ามองจากด้านข้างจะเห็นจุดหักระหว่างจมูกกับหน้าผากอย่าชัดเจน มองจากด้านหน้าจะเห็นเป็นขีดอยู่ระหว่างดวงตา จะต่างกับแมวเอเชียอย่างแมวไทยซึ่งจมูกกับหน้าผากเมื่อมองจากด้านข้างค่อนข้างจะเป็นเส้นตรง

แมวเปอร์เซียมีหน้าตาหลากหลายแบบ อาจจะดูยากไน่อยระหว่างแมวขนยาวสายพันธุ์อื่นกับโครงร่างของแมวเปอร์เซียลำตัวจะต้องสั้น ขาสั้น เตี้ยแต่หนาดูแข็งแรง หัวกลมหน้ากลม หูเล็กปลายหูมน หูอยู่ในตำแหน่งที่ห่างกันและไม่สูงเกินไป ตากลมโต หางสั้นแต่ก้ต้องเหมาะสมกับลำตัว หางตรงไม่คดงอบิดเบี้ยว ขนยาวหนาฟู ท่วงท่าการเดินดูดีมีสง่า


ลักษณะสายพันธุ์

แมวเปอร์เซีย เป็นแมวที่มีขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีกระดูกที่ใหญ่และแข็งแรง หัวและหน้ากลม หน้าผากโหนก แก้มเต็ม ดวงตากลมโต และอยู่ในตำแหน่งที่ห่างกัน มีจมูกที่หัก กล่าวคือ สังเกตได้ชัดเจนเมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นจุดหักระหว่างจมูกกับหน้าผากชัดเจน เมื่อมองจากด้านหน้าจะเห็นเป็นขีดอยู่ระหว่างดวงตา

สำหรับแมวเปอร์เซียที่มีลักษณะตรงตามมาตรฐานสายพันธุ์ ควรจะมีจมูกอยู่ในระดับเดียวกับตา โครงสร้างลำตัวสั้น ขาสั้นเตี้ย หูเล็กมีปลายหูที่กลมมน และอยู่ในตำแหน่งที่ห่างกัน หางสั้นและตรง ไม่มีรอยหัก ขนยาวฟู มีท่วงท่าการเดินดูสง่างาม ทั้งนี้ แมวเปอร์เซียในสมัยแรกๆ มีรูปร่างหน้าตาที่ต่างจากแมวเปอร์เซียในปัจจุบันมากทีเดียว ปัจจุบันมันถูกพัฒนาให้มีรูปร่างที่สั้นขึ้น ขนยาวขึ้น ถูกเปลี่ยนแปลงโครงร่างให้ใหญ่และกลม จมูกสั้นและหักมากขึ้น


อย่างไรก็ตาม แมวเปอร์เซียถูกแบ่งออกเป็น 7 ชนิด โดยแบ่งตามสี และลักษณะเป็นหลัก ดังนี้

1) Solid colour  ขนจะเป็นสีเดียวตลอดตัว ไม่ควรมีสีอื่นแซมเลย สีจะต้องเสมอกันตลอด เช่น white ขนสีขาวบริสุทธิ์, blue ขนสีเทาเข้ม, black สีขนดำสนิท, red ขนสีแดงเข้มและสดใส, cream ขนสีครีมเข้ม, chocolate ขนสีน้ำตาสช็อกโกแลต, lilac ขนสีลาเวนเดอร์

สีขาว solid color ขาว แมวจะมีขนสีขาวบริสุทธิ์  จมูกและอุ้งเท้าสีชมพู ตาสีฟ้าเข้มหรือสีทองแดง ถ้าเป็นตาสองสีจะมีสีตาข้างหนึ่งสีฟ้าอีกข้างหนึ่งสีทองแดง ความเข้มของสีตาทั้งสองข้างจะเท่าๆ กัน เมื่อตอนที่ยังเป็นลูกแมวจะมีสีทึบ พอโตขึ้นสีทึบจะค่อยๆ จางหายไปหลือเป็นสีขาวบริสุทธิ์ สีน้ำเงิน แมวจะมีขนสีเทาเป็นเงางาม สีเสมอกันตลอดทั้งตัวตั้งแต่จมูกจรดปลยหาง สีเดียวตั้งแต่โคนขนถึงปลายขน จมูกและอุ้งเท้าสีเท่าเข้ม ตาสีทองแดงหรือส้มเข้มสุกใส สีดำ แมวจะมีสีขนดำสนิททุกเส้นและทั้งตัว ไม่มีสีสนิมหรือสีขาวแซมอยู่เลยแม้แต่นิสเดียว จมูกสีดำ อุ้งเท้าสีดำหรือน้ำตาล ตาสีทองแดง สีแดง แมวจะมีขนสีแดงและสดใส ไม่มีเฉดหรือลวดลายใดๆ ปากและคางสีเดียวกับขนทั่วทั้งตัว จมูกและอุ้งเท้าสีแดงอิฐ ตาสีทองแดง สีครีม แมวจะมีขนสีครีมเข้าสีเดียวตลอดตั้งแต่โคนจรดปลายสีเดียวทั้งตัว ไม่มีลวดลายใดๆ มาเจือปน จมูกและอุ้งเท้าสีชมพู ตาสีทองแดง สีช็อคโกแลต แมวจะมีสีน้ำตาลช็อคโกแลต ขนสีเดียวตลอดทั้งตัว จมูกสีน้ำตาล อุ้งเท้าสีชมพูอมน้ำตาล ตาสีทองแดง สีลาเวนเดอร์ แมวจะมีขนสีลาเวนเดอร์(จะสีน้ำตาลก็ไม่ไช่จะสีเทก็ไม่เชิง) สีเดียวตั้งแต่โคนจรดปลายเท่ากันทั้งตัว จมูกสีลาเวนเดอร์ อุ้งเท้าสีชมพู ตาสีทองแดง


2) Sliver&Golden ตาจะเป็นสีเขียวหรือสีเขียวอมน้ำเงินเท่านั้น

แมวเปอร์เซียที่ถูกจัดอยู่ในประเภท Silver & Golden นี้ ถ้าเป็นแมวจำพวก Chinchilla จะมีสีดำประมาณ 1/8 ส่วนอยู่ที่ปลายขน แต่ถ้าเป็นแมวจำพวก Shade จะมีสีดำประมาณ 1/3 ส่วนอยู่ที่ปลายขน ลักษณะพิเศษของแมวประเภทนี้คือ ตาจะเป็นสีเขียวหรือสีเขียวอมน้ำเงินเท่านั้น ถ้ามีตาสีอื่นๆเช่น เหลือง ทองแดง น้ำตาล ทอง ฯลฯ ถือว่ายังไม่ได้มาตรฐาน แต่ในอังกฤษแมวสี Silver ที่มีตาสีเหลือง ทอง ทองแดง จะจัดเป็นอีกสายหนึ่งชื่อว่า Pewter โดยแมวเปอร์เซียประเภท Silver & Golden มีสีต่างๆ ดังต่อไปนี้

Chinchilla Silver  แมวจะมีขนสีขาว ปลายขนบริเวณหัวหลัง สีข้าง หาง มีสีดำแต้มเล็กน้อยพองาม ดูเผินๆ แล้วเหมือนเป็นประกายสีเงิน ขนใต้คาง หน้าอก ท้อง เป็นสีขาวบริสุทธิ์ ดูโดยรวมแล้วเหมือนแมวสีขาวก็ว่าได้ แต่ตาสีเขียวหรือเขียวอมน้ำเงิน จมูกสีอิฐ ขอบจมูก ขอบตา ขอบปากสีดำ อุ้งเท้าสีดำ ตอนยังเล็กอาจมีลายจางๆ ตามลำตัว แต่เมื่อโตขึ้นลายเหล่านั้นก็จะจางหายไป

Shade Silver แมวจะมีขนชั้นในสีขาว ปลายขนบริเวณหัว หลัง สีข้าง หาง มีสีดำแต้มเล็กน้อยแต่มากกว่า Chinchilla ขนใต้คาง หน้าอก ท้อง เป้นสีขาวบริสุทธิ์ โโดยรวมสีจะเข้มกว่า Chinchilla ตาสีเขียวหรือเขียวอมน้ำเงิน จมูกสีอิฐ ขอบจมูก ขอบตา ขอบปากสีดำ อุ้งเท้าสีดำ

Chinchilla  Golden แมวจะสีขนสีน้ำตาลอ่อน มีสีดำที่ปลายขนเล็กน้อย ที่หัว หลัง สีข้าง หาง ส่วนคาง ขนหู หน้าอก ท้องเป็นสีครีม ตาสีเขียวหรือเขียวอมน้ำเงิน จมูกสีกลีบกุหลาบเข้มๆ  ขอบจมูก ขอบตา ขอบปากสีดำ อุ้งเท้าสีดำ

Shade Golden แมวจะมีขนสีน้ำตาลอ่อน มีสีดำที่ปลายขนเล็กน้อยที่หัว หลัง สีข้าง หาง แต่เข้มกว่า Chinchilla  Golden ส่วนคาง ขนหู หน้าอก ท้องเป็นสีครีม ตาสีเขียวหรือเขียวอมน้ำเงิน จมูกสีกลีบกุหลาบเข้มๆ  ขอบจมูกสีดำ ขอบตา ขอบปาก อุ้งเท้าสีดำ มองโดยรวมจะเข้มกว่า Chinchilla  Golden


3) Shade&Smoke จะมีสีขน 3 แบบ คือแบบ Shell จะมีสีที่ปลายขนเพียงเล็กน้อย แบบ Shade จะมีส่วนที่เป็นสีมากกว่า และแบบ Smoke จะมีสีมากกว่าแบบ Shade

แบบ  Shell จะมีสีที่ปลายขนเพียงเล็กน้อย ประมาณ 1/8 ส่วนของเส้นขน

Shell Cameo (Red Chinchilla) แมวจะมีขนชั้นในสีขาวปลายขนบริเวณหัว หลัง สีข้าง หาง มีสีแดงแต้มเล็กน้อย(น้อย เหมือน Chinchilla Silver แต่ Chinchilla Silver สีที่แต้มจะเป็นสีดำ) เมื่อมองดูโดยรวมแล้วจะเหมือนแมวสีขาว ขนใต้คาง หน้าอก ท้อง เป็นสีขาวบริสุทธิ์ ตาสีทองแดง จมูกและอุ้งเท้าสีชมพูเข้า

Shell Cream(Cream Chinchilla) แมวจะมีขนชั้นในสีขาว ปลายขนบริเวณหัว หลังสีข้าง หาง มีสีครีมแต้มเล็กน้อย เมื่อมองดูโดยรวมแล้วจะหมือนแมวสีขาว ขนใต้คาง หน้าอก ท้อง เป็นสีขาวบริสุทธิ์ ตาสีทองแดง จมูกและอุ้งเท้าสีชมพุเข้ม

Shell Tortoiseshell แมวจะมีขนชั้นในสีขาว ปลายขนบริเวณหัว หลัง สีข้าง หาง มีสีดำสลับแดงแต้มประมาณ 1/8 ส่วนของเส้นขน ขนหน้าอก ท้อง เป็นสีขาวบริสุทธิ์ ดูโดยรวมแล้วคล้ายแมวสีขาว ตาสีทองแดง จมูกและอุ้งเท้าสีชมพูเข้มจนถึงสีดำ หรืออาจจะมีทั้งสองสีเลยก็ได้

Shell Blue-Cream แมวจะมีขนชั้นในสีขาว ปลายขนบริเวณหัว หลัง สีข้าง หาง มีสีเทาเข้มสลับครีมแต้มประมาณ 1/8 ส่วนของเส้นขน ขนหน้าอก ท้อง เป็นสีขาวบริสุทธิ์ ดูโดยรวมแล้วคล้ายแมวสีขาว ตาสีทองแดง จมูกและอุ้งเท้าสีชมพูเข้มจนถึงสีดำ หรืออาจจะมีทั้งสองสีเลยก็ได้

แบบ  Shade จะมีส่วนที่เป็นสีมากกว่าคือประมาณ 1/3 ส่วน

Shade Cameo (Red Shade) แมวจะมีขนชั้นในสีขาวปลายขนบริเวณหัว หลัง สีข้าง หาง มีสีแต้มเล็กน้อยแต่มากกว่า  Shell  Cameo  ขนหน้าอก ท้อง เป็นสีขาวบริสุทธิ์ ดูโดยรวมสีจะเข้มกว่า  Shell Cameo ตาสีทองแดง จมูกและอุ้งเท้าสีชมพูเข้ม

Shade Cream(Cream Shade) แมวจะมีขนชั้นในสีขาวปลายขนบริเวณหัว หลัง สีข้าง หาง มีสีแดงแต้มเล็กน้อยแต่มากกว่า  Shell  Cream  ขนหน้าอก ท้อง เป็นสีขาวบริสุทธิ์ ดูโดยรวมสีจะเข้มกว่า  Shell Cream  ตาสีทองแดง จมูกและอุ้งเท้าสีชมพูเข้ม

Shade Tortoiseshell แมวจะมีขนชั้นในสีขาว ปลายขนบริเวณหัว หลัง สีข้าง หาง มีสีดำสลับแดงแต้มประมาณ 1/3 ส่วนของเส้นขน ขนหน้าอก ท้อง เป็นสีขาวบริสุทธิ์ ดูโดยรวมจะเข้มกว่า Shell Tortoiseshell ตาสีทองแดง จมูกและอุ้งเท้าสีชมพูเข้มจนถึงสีดำ หรืออาจจะมีทั้งสองสีเลยก็ได้

Shade Blue-Cream แมวจะมีขนชั้นในสีขาว ปลายขนบริเวณหัว หลัง สีข้าง หาง มีสีเทาเข้มสลับครีมแต้มประมาณ 1/3  ส่วนของเส้นขน ขนหน้าอก ท้อง เป็นสีขาวบริสุทธิ์ ดูโดยรวมสีจะเข้มกว่า Shell Blue-Cream ตาสีทองแดง จมูกและอุ้งเท้าสีชมพูเข้มจนถึงสีดำ หรืออาจจะมีทั้งสองสีเลยก็ได้


แบบ  Smoke จะมีประมาณสีไม่แน่นอน แต่มีมากกว่าแบบ Shade

Black Smoke แมวจะมีขนชั้นในสีขาว ปลายขนสีดำโดยเฉพาะที่ หน้า ขา หลัง และหาง ส่วนจมูกและอุ้งเท้าสีดำ ตาสีทองแดง

Blue Smoke แมวจะมีขนชั้นในสีขาว ปลายขนสีเทาเข้ม โดยเฉพาะที่ หน้า ขา หลัง และหาง ส่วนจมูกและอุ้งเท้าสีเทาเข้ม  ตาสีทองแดง

Cream Smoke แมวจะมีขนชั้นในสีขาว ปลายขนสีครีม โดยเฉพาะที่ หน้า ขา หลัง และหาง ส่วนจมูกและอุ้งเท้าสีชมพู ตาสีทองแดง

Red Smoke แมวจะมีขนชั้นในสีขาว ปลายขนสีแดง โดยเฉพาะที่ หน้า ขา หลัง และหาง ส่วนจมูกและอุ้งเท้าสีชมพูเข้ม  ตาสีทองแดง

Tortoiseshell Smoke แมวจะมีขนชั้นในสีขาว ปลายขนสีดำสลับแดง โดยเฉพาะที่ หน้า ขา หลัง และหาง ส่วนจมูกและอุ้งเท้าสีชมพูเข้มหรือดำ หรืออาจจะทั้งสองสี  ตาสีทองแดง

Blue-Cream Smoke แมวจะมีขนชั้นในสีขาว ปลายขนสีเทาเข้มสลับครีม โดยเฉพาะที่ หน้า ขา หลัง และหาง ส่วนจมูกและอุ้งเท้าสีชมพูเข้มหรือเทาเข้ม หรืออาจจะมีทั้งสองสี  ตาสีทองแดง


4) Tabby จะมีลวดลายที่เป็นที่ยอมรับอยู่ 2 แบบ คือ Classic และ Mackerel

5) Parti-colour จะเกิดขึ้นเฉพาะเพศเมียเท่านั้น อันสืบเนื่องมาจากการสืบทอดทางโครโมโซม

6) Calico & Bi-Color สีทั่วไปตาจะเป็นสีทองแดง ถ้าเป็นตาสองสีตาข้างหนึ่งจะเป็นสีฟ้า อีกข้างเป็นสีทองแดง ความเข้มของสีตาทั้งสองข้างเท่าๆ กัน

7) Himalayan เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างแมวไทยวิเชียรมาสกับแมวเปอร์เซีย จะมีลักษณะแต้มสีตำแหน่งเดียวกับแมววิเชียรมาส คือหูทั้งสองข้าง ที่หน้าครอบเหมือนหน้ากาก ขาทั้งสี่ ตาสีฟ้าสดใส


อาหารและการเลี้ยงดู

อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่า แมวเปอร์เซียเป็นแมวสายพันธุ์ต่างประเทศ ค่าเลี้ยงดูและค่าตัวอาจแพงสักหน่อย ทั้งนี้ ราคาของแมวเปอร์เซีย มีตั้งแต่หลักพันถึงหลักแสน ขึ้นกับเกรดของสายพันธุ์ สามารถแบ่งได้เป็น

เกรดเพ็ด(PET Quality) ส่วนมากเป็นแมวที่เลี้ยงตามบ้านทั่วไป ราคาประมาณ 5,000-15,000 บาท จมูกยาว หน้าไม่บี้ หรือเรียกว่าหน้าตุ๊กตา

เกรดทำพันธุ์และโชว์(Breed and Show Quality) ส่วนมากเป็นพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ เลี้ยงไว้เพื่อประกวด หรือโชว์ มีลักษณะของแมวเปอร์เซียที่ดีครบ โดยหน้าจะบี้ คือ จมูกและตาเกือบเสมอกัน

นอกจากนี้ ระดับของราคายังแบ่งเป็นสายพันธุ์ในประเทศอยู่ที่ 25,000-35,000 บาท สายพันธุ์นำเข้า 35,000-100,000 บาท หรือมากกว่านั้น ขึ้นกับสุขภาพของแมว และลักษณะเด่นตามสายพันธุ์

เมื่อตัดสินใจจะเลี้ยงแมวพันธุ์นี้แล้ว จงพึงระลึกไว้เสมอว่า การดูแลขนของแมวเปอร์เซียเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ผู้เลี้ยงต้องหมั่นทำความสะอาดถึงการแปลงและสางขนแมวอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันการเกิดขนพันกัน เพราะการที่ขนพันกันเป็นกระจุกนั้นจะเป็นแหล่งเพาะเชื่อโรครวมทั้งพยาธิต่างๆ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคผิวหนังอักเสบและเป็นที่อยู่ของเห็บหมัดอีกด้วย

ในเรื่องของอาหารการกินนั้น ควรเลือกอาหารที่ช่วยให้ทางเดินอาหารของแมวไม่อุดตัน เนื่องจากแมวเปอร์เซียจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเลียทำความสะอาดขน อันเป็นสาเหตุในการกินหรือกลืนเส้นขนเข้าไปเป็นจำนวนมาก หากเส้นขนจะไปรวมตัวกันในช่องท้องจะทำให้แมวเปอร์เซียสำรอกหรือเกิดปัญหาของระบบย่อยอาหารได้


โรคและวิธีการป้องกัน

โรคที่พบบ่อยในแมวเปอร์เซียนั้นส่วนใหญ่จะเป็นโรคที่เกิดขึ้นและถ่ายทอดทางพันธุกรรม เช่น โรคหายใจขัด หอบ หรือ ท่อน้ำตาอุดตัน เป็นต้น นอกจากนี้ แมวเปอร์เซียที่มีสีขาวรวมถึงแมวเปอร์เซียที่มีตาสีฟ้าหรือตาข้างละสีมักมีความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด คือ หูหนวก อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม โรคท่อน้ำตาอุดตัน และปัญหาคราบน้ำตา เป็นปัญหาที่พบบ่อยและถูกถามถึงมากที่สุด อาการที่พบ คือ มีน้ำตา ไหลในตาข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้าง ไม่มีอาการหรี่ตา น้ำตาที่ไหลออกมาเป็นน้ำตาใสๆ ร่วมกับมีคราบติดบริเวณร่องจมูก ซึ่งโรคนี้เป็นโรคทางพันธุกรรม เกิดจากการสะสมของแบคทีเรียในท่อน้ำตา เนื่องจากท่อน้ำตาและโพรงจมูกของแมวเปอร์เซียคดไปคดมา

เมื่อเจ้าเหมียวของคุณประสบปัญหานี้เข้า การแก้ปัญหาเบื้องต้น ผู้เลี้ยงอาจใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเคอยเช็ดคราบน้ำตาเป็นประจำ เพราะหากปล่อยไว้จนแห้ง อาจเช็ดไม่ออก หมดสวยหมดหล่อไม่รู้ด้วยนะคะ แต่ถ้าหากมีคราบน้ำตามเยอะและข้นกว่าปกติ อาจต้องใช้ยาป้ายตาร่วมกับการเช็ดคราบน้ำตา หรืออาจพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อล้างท่อน้ำตา และทำการรักษาต่อไป


การนำเข้าแมวเปอร์เซีย

ในการนำำเข้าแมวเปอร์เซียจากต่างประเทศ คุณจะต้องดูว่าฟอร์มที่เราสนใจเป็นฟาร์มาที่น่าเชื่อถือหรือไม่ มีประวัติความเป็นมาอย่างไรบ้าง ฟาร์มที่ดีควรมีรูปแมวให้ผู้ซื้อูก่อน หากคุณสนใจจริงๆ ก้โทรไปสอบถามรายละเอียดกับเจ้าของฟาร์มดู ซึ่งคุณสามารถขอให้ทางฟาร์มส่งรูปอย่างละเอียดทุกๆ มุม รายละเอียดต่างหรือวิด๊โอมาให้ดูก่อนได้ ซึ่งที่กล่าวมานั้นคุณจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด ในการเลือกซื้อแมวพยายามอย่าดูแมวแค่เฉพาะรูปเท่านั้นและจงอย่าซื้อแมวที่มีอายุน้อยเกินไปเพราะแมวอาจเปลี่ยนรูปร่างได้เมื่อโตขึ้นมา ดังนั้นคุณควรซื้อแมวอายุที่มีอายุุตั้งแต่ 5 เดือนขึ้นไป เนื่องจากเป้นอายุที่เห็นรูปร่างทุกอย่างชัดเจนและแมวจะไม่เปลี่ยนรูปร่างไปมากกว่านี้แล้ว และหากเป็นแมวที่มีอายุ 6-8 เดือนและจะยิ่งดี เพราะคุณจะเห็นได้เลยว่าแมวสวยหรือไม่ หากเป้นฟาร์ที่ดีก็จะบอกคุณเองว่าแมวที่คุณต้องการจะซื้อนั้นมีข้อดีข้อเสียอย่างไร ซึ่งนั่นถือว่าเป้นความซื่อสัตย์และจริงใจของฟาร์มนั้นๆ ที่คุณดูแมวอยู่

ราคาของลูกแมวเปอร์เซียจากเมืองนอกที่เพิ่งเกิด เหน้าตาเป็นอย่างไรยังไม่รู้แต่เป้นแมวของฟาร์มที่มีชื่อเสียง ราคาจะอยุ่ที่ประมาณ 2,000 เหรียญสหรัฐขึ้นไป หากลูกแมวยิ่งมีอายุมากขึ้น รามถึงมีรงวัลในการประกวดการันตีความสวยแล้วราคาก้จะสูงขึ้นอีกประมาณ 2,500 – 3,500 เหรียญสหรัฐ

ในการนำำเข้าส่วนใหญ่แมวจะต้องได้รับการดูแลอย่างดีทุุกเวลาที่อยู่บนเครื่องบิน โดยค่าใช้จ่ายในตรงนี้ทั้งหมด ผู้ที่สั่งนำเข้าจะต้องเป็นผู้จ่ายซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 400 -500 เหรียญสหรัฐต่อการนำเข้าแมว 1 ตัว





การเลือกแมวเปอร์เซีย

แมวเปอร์เซียที่ตรงตามมาตฐานของ CFA จะมีลักษณะโครงสร้างของใบหน้าและกระโหลกที่กลม มีจุด Brake หรือที่เรียกว่า Stop อยู่กึ่งกลางด้านในจะอยู่ประมาแนวเดียวกับหางตาพอดี ดวงตากลมโต ห่างกันพอสมควร ถ้าจะให้ประมาณความห่างระหว่างดวงตา จะประมาณ 1.5 เท่าของความกว้างดวงตา ตาไม่เหล่ไม่เข จมูกสั้น ดูโดยรวมแล้วต้องหน้าหวานไม่ใช้หน้ากลัว รูปร่างของแมวเปอร์เซียก็คือตัวสั้นกลมดูแล้วตัวกลมๆ ฟู หางไม่สั้นไม่ยาว วัดเมื่อทบหางกลับมาได้ที่หัวไหล่พอดี


Cr. //  โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ , pantip , kapook , catmeawmeaw , หนังสือแมวเปอร์เซีย PERSIAN CAT เรียบเรียงโดย ชินาภา ประวัง

Relate topics

แสดงความคิดเห็น

« 7931
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง